สมช.เร่งประมวลเหตุบึ้มใต้ เชื่อมโยงการปล่อย8อุสตาช

เลขาสมช. เผย ขณะนี้จนท.เร่งประมวลเหตุการณ์วางระเบิดแดนใต้เมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.มีส่วนเชื่อมโยงกับการปล่อยตัว 8 อุสตาช หรือไม่

กล่าวกรณีมีกระแสข่าวผู้ก่อความไม่สงบเมื่อคืนวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมามีส่วนเชื่อมโยงกับการปล่อยตัว 8 อุสตาช ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เป็นเพียงการคาดเดากันว่าเกี่ยวข้อง แต่ความจริงจะต้องตรวจสอบกันต่อไป และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการประมวลว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มไหน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

กรณีที่มีกระแสข่าวว่านายมะแซ อุเซ็ง แกนนำผู้ก่อความไม่สงบ ในมาเลเซีย เป็นผู้สั่งการเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงการข่าวแต่ข้อเท็จจริงก็ต้องตรวจสอบ

มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าการที่ผู้ก่อความไม่สงบลงมือต่อเนื่อง 2 วัน เพราะต้องการตอบโต้ฝ่ายไทยที่จะเปิดเจรจากับผู้ก่อการบางกลุ่มหรือไม่

นายประกิจ กล่าวว่า เป็นไปอย่างที่พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ที่ให้ข่าวไปแล้วว่า มีการตั้งสมมุติฐานและวิเคราะห์กันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ ซึ่งจริงหรือไม่จริงก็ต้องตรวจสอบ โดยความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซีย ที่จะดำเนินการร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า คงไม่มีการเจรจา แต่มีการพูดจากัน ซึ่งเป็นหลักของนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ที่จะให้มีการพูดจากัน ซึ่งเป็นเรื่องของระดับเจ้าหน้าที่

นายประกิจ กล่าวว่า ยังไม่มี เมื่อถามว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ นายประกิจ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เป็นเรื่องที่จะต้องพูดจากัน ต่อข้อถามว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวเร่งให้เจรจาเร็วขึ้นหรือไม่ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พูดจากันได้ ไม่ใช่การเจรจา

นายประกิจ กล่าวว่า การจริงจังเด็ดขาด เป็นการจะทำให้สถานการณ์มีความสงบสุขมากขึ้น ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายในที่ประชุมกอ.รมน. ให้ดำเนินการแบบบูรณาการ ทำงานกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหารให้มากขึ้น พร้อมกับนำภาคประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำประชาชน ให้มามีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อย และสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประกาศใช้พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน จนถึงเดือนเมษายน

นายประกิจ กล่าวว่า ยังไม่ได้อยู่ในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี และตนไม่ทราบเรื่อง ขึ้นอยู่กับรัฐบาล เมื่อถามว่าตามหลักการมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการออกกฎหมายหรือไม่ นายประกิจ กล่าวว่า ทำอย่างไรก็ได้ เพื่อให้กฎหมายเกี่ยวกับศอ.บต.ได้ออกมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีแนวทาง ตนในฐานะที่เป็นสมาชิก สนช. ทราบว่าอยู่ในการพิจารณาของวิปของสนช.

สภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ทุกพื้นที่ในประเทศไทยรวมทั้งกรุงเทพฯ จำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการ ดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อยให้มากขึ้น ให้ดูแลเรื่องที่จะมีการก่อเหตุรุนแรง ก็จำเป็นเพราะเคยเกิดสถานการณ์เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2549 มาแล้ว ดังนั้นในวาระสำคัญๆ จึงต้องมีการย้ำเตือนกันให้ดูแลรักษาความสงบ

นายประกิจ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ข้อคิดเห็นซึ่งเป็นแนวทางของรัฐบาล ทั้งกอ.รมน. พตท.43 ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยได้ หน่วยงานที่มีอยู่เหล่านี้ยังสามารถรับมือได้

เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ทั่วไป แต่ตนคิดว่าคงมีลักษณะของระดับอย่างที่เป็นอยู่นี้เท่านั้น

การจะก่อเหตุได้พร้อมกัน 50 จุดนั้นจะต้องใช้คนกว่า 1,000 คน จริงหรือไม่

นายประกิจ กล่าวว่า คงไม่ เพราะน่าจะใช้แค่ 150 คนเท่านั้น เมื่อถามว่า ขณะนี้จำเป็นต้องจำกัดเวลาการออกจากบ้านของประชาชนหรือยัง นายประกิจ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็น

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก