ค้างจ่ายหนี้โดนยึดเมียกู้3หมื่นงอก4แสนแถมหลอกเซ็นยกบ้าน

หนี้นอกระบบโหด เงินต้น 3 หมื่นบวกดอกร้อยละ 20 จ่ายผ่อนวันละ 500 บาท ถูกหลอกเซ็นชื่อยกบ้านให้แถมเป็นหนี้พอกพูน เพิ่มเป็น 4 แสนบาท พ่อค้าปลารันทดไร้บ้าน ลูกอดเรียน เตรียมเข้าร่วมสภาเครือข่ายประชาชน บุกพบนายกฯ ขอความช่วยเหลือ

จากกรณีที่กลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมกับสภาเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน (สอส.) เดินขบวนเพื่อเข้าพบและขอความช่วยเหลือจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หนึ่งในนั้นมีครอบครัวของ นายวิจารณ์ ปะจุทะสี อายุ 56 ปี และ นางณัฐกาน ปะจุทะสี อายุ 44 ปี สามีภรรยา มีอาชีพขายปลา อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 21 ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ที่เป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ 3 หมื่นบาท แต่กลับถูกหลอกให้เซ็นชื่อกระทั่งเป็นหนี้กว่า 4 แสนบาท และถูกยึดบ้านจนไร้ที่อยู่อาศัย

นายวิจารณ์ เล่าว่า เมื่อปี 2545 ต้องการใช้เงินเพื่อลงทุนขายปลาในตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม จำนวน 3 หมื่นบาท เมื่อนางสำเนียง คนรู้จักกันทราบเรื่อง ก็เป็นนายหน้าไปกู้เงินจากนางลาน นายทุนเงินกู้นอกระบบอยู่ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม มาให้ โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 หลังรับเงิน

นางสำเนียงได้มาขอส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง อ้างว่าเป็นค่านายหน้า แต่ขณะนั้นนายวิจารณ์ถือเงินอยู่ 1 หมื่นบาท ก็ถูกแย่งจากมือไป หลังจากนั้นเมื่อขายปลาในตลาด นางสำเนียงจะมาเก็บเงินวันละ 500 บาท และไม่เคยออกใบรับเงินให้ รวมเวลาจ่ายทั้งหมดประมาณ 45 วัน เป็นเงิน 22,500 บาท

นายวิจารณ์ กล่าวว่า ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 2546 นางสำเนียงได้มาสอบถามว่า มีที่ดินที่ติดจำนองกับธนาคารหรือไม่ จึงบอกไปว่ามี จำนวน 3 งาน 73 ตารางวา ติดจำนองกับไทยธนาคาร สาขามหาสารคาม จำนวน 8 หมื่นบาท จากนั้นวันที่ 8 สิงหาคม นางสำเนียง มาแจ้งว่าจะพาไปไถ่ถอนที่ดินจากธนาคาร รวมราคาทั้งต้นทั้งดอก 143,234.41 บาท และได้พาไปเซ็นเอกสารที่สำนักงานที่ดิน อ้างว่าเป็นเอกสารให้ใช้หนี้หลังไถ่ถอนโดยไม่คิดดอกเบี้ย

หลังจากนั้นเพียง 3 วัน นางลานได้แจ้งให้คืนเงิน 3.5 แสนบาท เป็นเงินกู้รวมกับค่าไถ่ถอนบ้าน หากไม่ชำระจะเอาตัวภรรยาไปทำงานแม่บ้านใช้หนี้ เวลา 15 ปี เมื่อไม่มีเงินส่งคืนให้ นางลานได้ส่งคนมารับภรรยาไป หลังจากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้อีก ส่วนบ้านก็ถูกประกาศขายและขับไล่ ทราบภายหลังว่า เอกสารที่ลงลายมือชื่อไปเป็นการยกบ้านที่ดินให้นางลาน ทำให้ต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน อาศัยนอนสวนสาธารณะ เก็บของเก่าขาย ลูกที่เรียนอยู่ระดับอาชีวะก็ต้องหยุดเรียนกะทันหัน เพราะไม่มีเงิน ส่วนภรรยาระยะหลังหลบหนีออกมาได้

"ชีวิตลำบากมาก จากคนที่เคยมีอาชีพ มีบ้านอยู่ กลับมาเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว และได้ส่งหนังสือร้องทุกข์สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ต่อมามีศาลเข้ามาไกล่เกลี่ย ประนอมหนี้ และให้กลับไปอยู่บ้านได้ แต่จะต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้นางลาน 4 แสนบาท ซึ่งทยอยส่งเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2549 ก็ถูกนางลานฟ้องขับไล่อีกครั้ง โดยขีดเส้นตายต้องจ่ายเงินภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ถึงปัจจุบันยังหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ จึงต้องเข้าร่วมขบวนเดินเท้าเพื่อให้นายกฯ สุรยุทธ์ ช่วยเหลือ" นายวิจารณ์ กล่าว