แก๊สเจาะตู้เอทีเอ็ม ฉกสบายๆ 8.7 แสน

เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 19 ก.พ. พ.ต.ท.ปรีชาวุฒิ ชาญยุทธนา สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองปราจีนบุรี

รับแจ้งจากนายสุรจิต เหล่าประชัยวัลย์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/292 หมู่ 6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

มีตำแหน่งเป็น ผจก.ธนาคารทหารไทย สาขาปราจีนบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 192 ถนนราษฎรดำริห์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี

ว่ามีคนร้ายโจรกรรมเงินไปจากตู้เอทีเอ็ม ตั้งอยู่ชั้นล่างของธนาคาร ขอให้ไปตรวจสอบด้วย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อำนวยพล สถิตย์ไทย ผกก. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ถุนของธนาคารติดกับลานจอดรถ พบว่าประตูเหล็กขนาดกว้าง 1.20 เมตร สูงราว 2 เมตร ที่ติดตั้งอยู่หลังของตู้เอทีเอ็ม มีร่องรอยถูกตัดด้วยแก๊สเป็นช่องขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร สูง 60 เซนติเมตร

สามารถมุดตัวเข้าไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเหล็กเข้าไปพบว่าแผ่นเหล็กหลังตู้เอทีเอ็มความหนา 8 มิลลิเมตร มีร่องรอยถูกตัดด้วยแก๊สเป็นรูโบ๋ขนาดกว้าง 60 เซนติเมตร กล่องบรรจุเงินสดภายในตู้หายไป ส่วนปลั๊กไฟถูกถอดออก

ขณะเดียวกัน ตำรวจตรวจสอบโดยรอบที่เกิดเหตุพบว่าตรงพื้นปูนลานจอดรถมีร่องรอยคล้ายลากของหนักครูดไปกับพื้นจากตึกร้างด้านข้างของธนาคารไปยังบริเวณที่ตั้งของตู้เอทีเอ็ม เชื่อว่าน่าจะเป็นรอยลากถังแก๊ส จึงประสานตำรวจกองวิทยาการเขต 14 (ปราจีนบุรี) มาร่วมตรวจสอบพร้อมเก็บรอยลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

สอบปากคำนายสุรจิต เหล่าประชัยวัลย์ ผจก. ธนาคารให้การว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันขณะที่นายกิตติภูมิ มุงสูงเนิน อายุ 38 ปี ผู้ช่วยผู้จัดการ ขับรถยนต์เข้าไปจอดตรงลานจอดรถใต้ถุนของธนาคาร

พบว่าประตูเหล็กและตู้เอทีเอ็มมีร่องรอยถูกตัดด้วยแก๊ส ส่วนกล่องเงินหายไป จึงแจ้งให้ทราบ จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ธนาคารนำธนบัตรชนิดต่างๆบรรจุกล่องเหล็กนำไปใส่ในตู้เอทีเอ็ม จำนวน 2,040,000 บาท

เนื่องจากช่วงดังกล่าวเป็นเทศกาลตรุษจีน ธนาคารต้องการบริการลูกค้าที่จะถอนเงินในช่วงวันหยุดและวันตรุษจีน หลังเจ้าหน้าที่นำเงินไปใส่แล้ว จนกระทั่งถึงเวลา 23.57 น. วันที่ 16 ก.พ. ตรวจสอบอีกทีพบว่ามีผู้มาใช้บริการถอนเงินไปจำนวน 1,167,700 บาท เหลือเงินอยู่จำนวน 872,300 บาท คาดว่าคนร้ายดึงปลั๊กไฟออกเพื่อตัดวงจรสัญญาณ ก่อนจะใช้แก๊สตัดตู้เอทีเอ็ม โจรกรรมเงินสดที่เหลืออยู่ในตู้หลบหนี

นายสุรจิตยังให้การอีกว่า ปกติธนาคารจะมีสารวัตรทหารจากกองพัน สห.12 มณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ดูแลความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่าง 08.30-15.30 น.

หลังจากนั้นจะไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งไม่มีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย ส่วนระบบสัญญาณเมื่อตู้มีปัญหาสำนักงานใหญ่จะเป็นผู้ทราบ ได้แก่ ตู้เอทีเอ็มปิดทำการ บัตรเอทีเอ็มติด เงินสดติด เงินหมดจากตู้เอทีเอ็ม เมื่อเกิดปัญหาสำนักงานใหญ่จะเป็นผู้แจ้งให้กับสาขาทราบอีกที

เบื้องต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่า คนร้ายใช้ช่วงวันหยุด ลอบเข้ามาทางตึกร้างข้างธนาคาร ใช้แก๊สตัดประตูเหล็กแล้วมุดตัวเข้าไปตัดแผ่นเหล็กเจาะตู้ฉกเอาเงินหลบหนี ซึ่งตำรวจจะได้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป