พยานโผล่อีกซัดหมอสุพัฒน์ซ้อมโหด

พยานโผล่อีกซัดหมอสุพัฒน์ซ้อมโหด


ตร.ภาค 7 พบพยานสำคัญอดีตลูกจ้างหมอสุพัฒน์ เผยหมอโหดหึงเมียสาวจับคนงานมัดซ้อมจนสลบ โชคดีที่ฟื้นก่อนกลัวถูกฆ่าหนีกลับพม่า


เมื่อเวลา 16.35 น.วันที่ 9 ต.ค ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค โดยพล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภ.7 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ชวน ชิตประเสริฐ ผกก.3 บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.สมบูรณ์ มั่นคง สว.สส.ภ.พร้อมคณะเดินทางไปรับตัวนายโย่ง อายุ 24 ปี อดีตคนงานชาวกะเหรี่ยง ที่เคยทำงานอยู่กับ พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ต้องหาพัวพันคดีการหายตัวไปของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สามีภรรยา ชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่ไร่ที่ท่าไม้รวก ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญคนหนึ่งที่หลบไปทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งย่าน อ.พระสุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มาที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7


หลังเดินทางถึง พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ สั่งให้ พ.ต.อ.กฤษณะ พร้อมคณะจัดหาสถานที่ให้นายโย่งอยู่อย่างปลอดภัยในฐานะพยานสำคัญ ซึ่งการพบตัวนายโย่งนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบก.สส.ภ.
7 เปิดเผยว่า หลังทราบว่านายโย่งหนุ่มชาวกะเหรี่ยง ซึ่งเคยเป็นคนงานทำงานอยู่ในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เมื่อประมาณหลายปีก่อน หลังพบตัวและได้พูดคุยกันซึ่งนายโย่งพูดฟังภาษาไทยได้ บอกว่าเป็นคนงานแต่ไม่เคยได้รับเงินเดือน ได้เงินใช้ครั้งละร้อยสองร้อยบาทเท่านั้น และมีคนงานชาวพม่าชาวกะเหรี่ยงอยู่ด้วยอีก 2-3 คน โดยเมียหมอคือ น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา พ.ต.อ.นายแพทย์สุพัฒน์ จะเป็นคนดูแลเรื่องความเป็นอยู่ และคนงานทุกคนก็มักจะเข้าไปดูทีวีในห้องของน.ส.วิลสา เป็นประจำ 
 

ต่อมาวันหนึ่ง หมอมาพบคนงานคือ นายตั้น หรือต้น หรืออีต้า เพื่อนคนงานชาวกะเหรี่ยงอีกคน ซึ่งหน้าตาดีนอนดูทีวีอยู่ในห้องของน.ส.วิลสา นายจ้างจึงไม่พอใจต่อว่าจน น.ส.วิลสา หนีหายไปหลายวัน ยิ่งเพิ่มความโกรธแค้นคิดว่า เมียแอบมีอะไรกับคนงาน จากนั้นหมอกับนายกะลา ได้ไปเรียกนายต้าที่นอนอยู่กับนายโย่งในห้อง นำตัวออกมาซ้อมและทรมานรัดคอด้วยเชือก โดยหมอถือปืนยาวคอยขู่และมีนายกะลาช่วยจับ


ตำรวจชี้หลักฐานคดีเริ่มชัดเจนขึ้น
 
"นายโย่งบอกว่า วันนั้นทั้งตัวเองและนายต้า ถูกซ้อมจนสลบคากองข้าวโพด เมื่อฟื้นเห็นนายต้ายังสลบอยู่ นายโย่งจึงหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนงานที่อยู่กับนายจ้างอีกไร่หนึ่งที่อยู่ติดกันกับไร่หมอ จากนั้นก็หนีกลับพม่าเพราะกลัวถูกฆ่า แล้วก็ไม่รู้ชะตากรรมของนายต้าอีก"


พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวและว่า นายโย่งกลับเข้าไทยอีกครั้งเมื่อ
2 ปีที่ผ่านมา ไปทำงานอยู่ที่ พระสมุทรเจดีย์ จนเจ้าหน้าที่ไปพบตัวเชิญมาเป็นพยานและถือว่านายโย่งเป็นผู้เสียหายถูกหมอทำร้ายร่างกายและคดีก็ยังไม่หมดอายุความ 
 

รอง ผบก.สส.ภ.7 กล่าวอีกว่า คดีนี้น่าจะเป็นหนังเรื่องยาว และพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวพันกับหมอเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้พยานสำคัญๆ ทั้งนายกะลา เมียนายกะลาพร้อมลูกๆ ของนายกะลาอยู่ในความคุ้มครองดูแลของตำรวจหมดแล้ว รวมทั้งนายโย่ง อีกคนจะได้รับการคุ้มครอง ส่วนโครงกระดูกที่ขุดพบในไร่ยังไม่ทราบว่าเป็นกระดูกของนายตั้น หรือต้น หรืออีต้า หรือไม่

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์