เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
กล่าวถึงกรณีญาติของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และนางอรสา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยาชาวจ.เพชรบุรี หายตัวปริศนา จะยื่นเรื่องขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจดีเอ็นเอโครงกระดูกต้องสงสัย 3 โครง ที่ขุดพบในไร่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ในอ.ท่ายาง จ.เพชรบุรีว่า หากดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ก็ต้องส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แต่ขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถเข้าไปตรวจดีเอ็นเอจากโครงกระดูกต้องสงสัยได้ แม้ว่าญาติของสองสามีภรรยา จะเข้าร้องต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพราะชิ้นส่วนกระดูกที่ขุดเจอในไร่ยังเป็นเพียงชิ้นกระดูกต้องสงสัยที่ยัง ไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นกระดูกของสองสามีภรรยา จึงไม่สามารถบอกตำรวจให้ส่งชิ้นส่วนกระดูกต้องสงสัยมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจดีเอ็นเอได้ นอกจากจะเป็นความร่วมมือจากตำรวจที่จะส่งชิ้นส่วนกระดูกต้องสงสัยมาให้ตรวจ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น
ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า แต่ประเด็นสำคัญจะเป็นกระดูกใคร ก็มีความหมายทั้งนั้น
ทางออกหากตำรวจอาจคลี่ผลการตรวจดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกต้องสงสัยให้นายสว่างดู แต่หากญาติดูแล้วไม่เชื่อก็เป็นปัญหาของระบบที่ยังต้องตรวจสอบกันไปกันมา เรื่องนี้จึงอยากให้ร่วมกันทำงาน โดยเรามีทีมเจ้าหน้าที่พร้อมในการลง พื้นที่ขุดหาโครงกระดูกที่ไร่ใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยที่ผ่านมาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เซ็นบันทึกข้อตกลงหรือ MOU กับประเทศอาร์เจนติน่า ในการฝึกผู้เชี่ยวชาญในการตรวจดีเอ็นเอและขุดหากระดูกนิรนาม
เบื้องต้น ตนเห็นว่าการขุดหาโครงกระดูกไม่ควรใช้รถแม็คโครขุด เพราะอาจทำให้หัวกระสุน หลุดจากหัวกระโหลกได้ คงต้องหารือรายละเอียดกับญาติสองสามีภรรยาที่จะเข้าพบวันจันทร์ ที่ 1 ต.ค.นี้