พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นำหมายค้นศาลจังหวัดเพชรบุรีพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน
เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจ เขต16 เพชรบุรี นำเครื่องตรวจสแกนหาโลหะ เข้าไปตรวจสอบที่ไร่ของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์อีกครั้ง บริเวณสนามฝึกซ้อมยิงปืน และจุดต้องสงสัยว่าเป็นที่สังหารคนงานและสองผัวเมีย พบปลอกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวนมาก หัวกระสุนปืนขนาด .44 หัวตะกั่วจำนวนหนึ่ง และเศษโลหะหัวกระสุนปืนขนาดต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง ที่ตรวจพบบริเวณอาคารที่สร้างเป็นห้องน้ำปลูกสร้างติดริมแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมยิงปืน จากนั้น ได้ย้ายไปสแกนหาปลอก และหัวกระสุนปืนบริเวณจุดที่น่าจะสังหารคนงานและสองผัวเมีย แต่ยังไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม
จากนั้นพานายกะลา คนงานชาวพม่าในไร่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มาชี้จุดต่างๆ ในไร่ ตามที่ระบุว่าเป็นคนลงมือฝัง 2 คนงานที่ถูกฆ่า
จุดแรกบริเวณข้างกอไผ่ห่างจากจุดที่พบโครงมนุษย์ 2 โครง ซึ่งนายกะลาระบุว่า หมอสุพัฒน์ลงมือสังหารพม่า 2 คน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาประมาณ 30 นาที พบแท่งเหล็กยาวประมาณ 10 นิ้ว คาดว่าเป็นอุปกรณ์ในการขันชะเนาะมัดเหยื่อ จึงเก็บไปตรวจสอบ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกระจายกำลังบางส่วนค้นหาจุดที่พบโครงกระดูก 2 โครงด้วยแต่ยังไม่พบอะไร
พตอ.ลั่นไกเอง! พยานแฉ เมียทำพิธีหลังฆ่า ใช้ธูปเทียน-สายสิญจน์ ปรึกษากันก่อนลงมือ!
จุดที่สอง คือ จุดลากศพจากจุดยิงไปฝังกลบและนำไปชี้รถแบ๊กโฮสีเหลืองที่ขุดดินฝังศพหลังจากนั้นนายกะลาพาไปชี้จุดบริเวณกอไผ่ที่พบโครงกระดูกโครงเเรกในวันที่เข้าขุดค้นหาศพ จุดที่สี่ เป็นจุดหน้าประตูทางเข้าไร่ที่นายกะลาลงมาเปิดประตูที่เป็นไม้ไผ่ให้พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ขับรถนำอุปกรณ์ฝังศพมาเก็บ และสุดท้ายพาไปปั๊มน้ำมันร้างข้าง สภ.ท่าไม้รวก ซึ่งเป็นจุดที่นำรถไถที่ใช้สำหรับไถกลบศพนำมาจอดทิ้งไว้
ที่สภ.ท่าไม้รวก ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.เพชรบุรี และคณะเดินมาประชุมฟังสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นจึงเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติการภาคสนามที่จุดพบศพ และกล่าวกำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น ร่วมมือในเรื่องของข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี รวมทั้งตัวบุคคลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนข้อมูลที่ได้จากชาวบ้านในพื้นที่ของทั้งฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันอยู่ เป็นหน้าที่ของตำรวจพิจารณาหาข้อสรุป นอกจากนั้นได้ให้ทางจัดหางาน จ.เพชรบุรี ได้ตรวจสอบเรื่องแรงงานว่ามีการนำเอาแรงงานต่างด้าวมาใช้อย่างผิดกฎหมายหรือไม่
พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี กล่าวว่า พนักงานสอบสวนไม่ติดใจทางพี่ชายของผู้ต้องหา
แฟ็กซ์เอกสารชี้แจงในเรื่องที่ยังสงสัยมาได้ อาทิ เรื่องรถตู้สีขาวที่เป็นชื่อของพี่ชายเป็นคนครอบครอง ที่จอดในไร่ของผู้ต้องหา แต่หากต้องสอบเพิ่มก็พร้อมจะเดินทางไปสอบปากคำที่ใดก็ได้ ที่ทางนายสุเทพสะดวก
พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 กล่าวถึงการออกหมายจับน.ส.วิลสา ภรรยาของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ว่า
ล่าสุดน.ส.วิลสาโทรศัพท์ติดต่อมายัง รอง ผบช.ภ.7 ที่คุมสำนวนนี้ว่าอยากจะเข้ามอบตัว แต่ติดปัญหาว่ากำลังหาเงินเพื่อมายื่นประกันตัว กรณีที่ว่าหากมามอบตัวแล้วจะกันเป็นพยานนั้นไม่เป็นความจริง เพราะน.ส.วิลสา ถือว่าตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว แต่หากมอบตัวจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับคำให้การและพฤติกรรม ว่าจะสร้างความยุ่งเหยิงในคดีหรือไม่ ก่อนพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นพล.ต.ท.หาญพลเข้ารายงานพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. ทราบถึงความคืบหน้าในคดีนี้ เบื้องต้นพล.ต.อ.ปานศิริ ให้ พล.ต.ท.หาญพล ลงไปดูข้อกล่าวหากรณีฆ่าเพิ่มเติมนอกจากข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ ต้องรอผลการตรวจสอบดีเอ็นเอทั้ง 3 โครงทั้งหมดก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวเพิ่มต่อไป
ด้านพล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ แพทย์ใหญ่ ร.พ.ตำรวจ กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์โครงกระดูกทั้ง 3 โครงกระดูกที่พบในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ผู้ต้องสงสัยอุ้ม 2 สามีภรรยาว่า การตรวจโครงกระดูกทั้ง 3 โครงยังไม่เสร็จเรียบร้อยอยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามจะเร่งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ก.ย. นี้อย่างแน่นอน