เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พ.ต.อ. พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย
พร้อมด้วย พ.ต.ท. ชาติชาย เรียมศิริ สารวัตรสืบสวนสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ประกอบด้วย น.ส.สุกัญญา ยศยิ่ง อายุ 37 ปี น.ส. เจนจิรา ดวงแก้ว อายุ 21 ปี น.ส. เล็ก (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ทั้งคู่เป็นลูกของ น.ส.สุกัญญา อยู่บ้านเลขที่ 8921 หมู่ 6 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก และ นายมรุพงศ์ พรหมบุตร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 9 ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางหลายรายการประกอบด้วย กระเป๋าสะพาย 1 ใบ แหวนทอง 1 วง โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
รถยนต์มิตซูบิชิ สีบรอน์ ทะเบียน บฉ 962 นครนายก อีก 1 คัน และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ร่วมกันก่อเหตุโดยทำทีเข้าไปซื้อของในร้านขายของชำซึ่งเป็นของนาง บัวทอง พรมมา อายุ 40 ปี เลขที่ 55 หมู่ 16 ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา โดย น.ส. เจนจิรา และนายเล็ก ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.สุกัญญา ได้ทำทีลงไปเลือกซื้อสินค้า ก่อนที่จะอาศัยที่เผลอหยิบกระเป๋าเงินของเจ้าของร้านวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งมีผู้ต้องหาอีกคนทราบเพียงชื่อเล่นว่านาย นี ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส. เจนจิรา สตาร์ทเครื่องรออยู่ข้างร้านขับหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการอำพรางการหลบหนีด้วยการเปลี่ยนรถโดยให้ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ
คือน.ส.เจนจิรา และ นายเล็ก ลงจาก รถจักรยายนต์มาขึ้นรถยนต์คันที่ถูกจับกุม จึงติดตามจับกุมได้ภายในรถคันดังกล่าวพร้อมของกลางทั้งหมด โดยสามารถจับกุมได้อยู่ในเขตตำบลเดียวกันห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 5 กิโลเมตร จากการตรวจสอบ พบว่า น.ส.เจนจิรา และ นายเล็ก เป็นลูกของน.ส.สุกัญญา ส่วนนายมรุพงศ์ เป็นเพื่อนของผู้ก่อเหตุลูกสาว ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น น.ส.เจนจิรา และนายเล็ก ให้การรับสารภาพ ขณะที่ นายมรุพงศ์ และน.ส.สุกัญญา ยังให้การปฏิเสธ อ้างไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า คนร้ายแก๊งนี้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง
โดยจะทำทีเข้าไปซื้อของในร้านค้าต่าง ๆ เมื่อเจ้าของร้านเผลอก็จะขโมยทรัพย์สินวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะเปลี่ยนให้ผู้ก่อเหตุมาขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม คาดว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ และยังมีผู้ที่ร่วมก่อเหตุที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ที่กำลังหลบหนีอยู่อีกหนึ่งคนคืน นาย นี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินตามกฎหมาย พร้อมกับวอนให้ผู้ที่เคยถูกก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาชี้ตัวแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป..