ไ อ้ เ ล ว ! ! ฝรั่งโลกีย์ ลวงขยี้กามดญ.12

ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.เจตนันท์ ราชพรหมมา รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.กุดจับ จ.อุดรธานี

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเฮลมุท นีลส์ อายุ 64 ปี ชาวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 74/2550 ลงวันที่ 10 ก.พ. 2550 โดยกล่าวหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.มานิตย์ แก้ววงศ์ ผกก.สภ.อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานีเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 บ้านโนนเมือง ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี

หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า

นายเฮลมุทซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม พบนายเฮลมุทอยู่ในบ้านกับ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ตามลำพัง 2 ต่อ 2

ขณะเดียวกัน ตรวจค้นในห้องนอนของนายเฮลมุทยังพบ

ม้วนวีดิโอลามก 6 ม้วน
แผ่นซีดีลามก 18 แผ่น
แผ่นวีซีดีลามก 2 แผ่น
กล้องถ่ายรูป อวัยวะเพศชายเทียม 2 อัน
ถุงยางอนามัย 4 ชิ้น
หนังสือลามก 14 เล่ม
ไพ่ลามก 38 แผ่น
กางเกงชั้นในเด็กผู้หญิง 1 ตัว
กล้องวีดิโอ 1 เครื่อง
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง

เมื่อตำรวจนำม้วนวีดิโอไปเปิดดู ปรากฏว่าเป็นภาพ

ของ ด.ญ.เอกำลังถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นจนเปลือยกายล่อนจ้อน และยังมีภาพนายเฮลมุทกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ตำรวจจึงแจ้งให้นางแดง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ผู้ปกครองของเด็กทราบ พร้อมควบคุมตัวนายเฮลมุท รวมทั้งของกลางทั้งหมดไปดำเนินคดี

มีอาชีพขายของใกล้ห้างเจริญศรีโรบินสัน ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อต้นปี 2549 นางเขียว (นามสมมติ) อายุ 32 ปี แม่แท้ๆของ ด.ญ.เอ ซึ่งอาศัยอยู่บ้านใกล้กัน ได้นำ ด.ญ.เอมาฝากให้ช่วยเลี้ยงดู เนื่องจากแยกทางกับสามี และต้องการเดินทางไปทำงานที่พัทยา จ.ชลบุรี

แต่ไม่ต้องการนำลูกสาวไปด้วยเกรงว่าลูกจะลำบาก

โดย 2 เดือนแรกนางเขียวส่งเงินมาให้เป็นค่าเลี้ยงดู แต่หลังจากนั้นหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ ด้วยความสงสารเด็กจึงอุปการะเลี้ยงดูเรื่อยมา กระทั่งเมื่อ 5 เดือนก่อน ขณะขายของอยู่กับ ด.ญ.เอ นายเฮลมุทเข้ามาพูดคุยตีสนิท

เมื่อทราบประวัติของเด็ก

นายเฮลมุทแสดงความจำนงขออุปการะส่งเสียให้เรียนหนังสือ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ไปช่วยทำงานบ้าน โดยนายเฮลมุทจะขับรถมารับ ด.ญ.เอทุกเย็นวันศุกร์หลังเลิกเรียน

และจะส่งกลับทุกเย็นของวันอาทิตย์ ทำเช่นนี้ประจำโดยไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งมาทราบข่าวอุบาทว์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะอยู่ในบ้านกับนายเฮลมุทตามลำพัง นายเฮลมุทจะนำหนังสือลามก วีดิโอลามกและวีซีดีลามกมาเปิดให้ดู พร้อมกับพูดจาเกลี้ยกล่อมขอร่วมหลับนอนด้วย ได้ตอบปฏิเสธ

แต่กลับถูกนายเฮลมุทใช้กำลังปลุกปล้ำบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

พร้อมกับให้เงิน 300 บาท ไม่กล้านำเรื่องไปบอกใครเกรงจะถูกทำร้าย หลังจากนั้นนายเฮลมุทจะขับรถยนต์ไปรับมาร่วมหลับนอนเป็นประจำ บางครั้งให้ถอดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้นและบันทึกภาพวีดิโอเอาไว้

รวมเวลาประมาณ 5 เดือน ที่ต้องทนอยู่ในสภาพเหมือนตกนรกทั้งเป็น

จากการสอบปากคำนายเฮลมุท ให้การว่าอดีตทำงานเป็นช่างซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังลาออกได้เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 15 ปี จนสามารถพูดไทยได้ชัดเจน

นายเฮลมุทมีพฤติกรรมชอบร่วมเพศกับเด็ก

อายุประมาณ 11-15 ปี เคยมีภรรยาคนไทยที่ไม่ แต่งงานและจดทะเบียนอายุ 15 ปี มาแล้ว 4 คน โดยจะตั้งเงินเดือนให้คนละ 4,000-5,000 บาท เป็นคนมีนิสัยไม่สุงสิงหรือพูดคุยกับเพื่อนบ้าน มักเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่ ไว้เฝ้าบ้าน ทำให้ชาวบ้านกลัวไม่กล้าเข้าใกล้

แต่เนื่องจากชาวบ้านพบเห็น

นายเฮลมุทขับรถยนต์ไปรับ ด.ญ.เอ มาพักอาศัยอยู่ด้วย และได้ยินเสียงร้องของ ด.ญ.เอ เป็นประจำ จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจค้น พบหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีกับนายเฮลมุทได้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ