เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ก.ย. นายสว่าง นุ่มจุ้ย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ 6 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.มนัส นิลกลัด สารวัตรเวรสภ.เมืองนนทบุรี ให้ช่วยไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 125/53 ซอยศิริโชติ กรุงเทพ-นนท์ซอย 1 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี เนื่องจากพบรถปิกอัพโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ แบบมีแค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ-5960 เพชรบุรี ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย ลูกชายที่หายตัวไปพร้อมกับน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ภรรยา ขณะขับรถคันดังกล่าวไปธุระตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552
ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา พบรถตามที่นายสว่าง ระบุ จอดอยู่ในโรงรถฝุ่นจับเขรอะ ล้อถูกถอดออกทั้งหมดหนุนไว้ด้วยก้อนอิฐ ป้ายทะเบียนถูกถอดออกเช่นกัน แต่นายสว่างจำตำหนิได้ยืนยันว่าเป็นรถของลูกชาย เมื่อเข้าไปดูบริเวณกระจกหน้ารถพบป้ายเสียภาษีระบุเป็นรถหมายเลขทะเบียน บฉ-5960 เพชรบุรี จึงติดต่อรถยกลากมาที่โรงพัก
เดินทางมาหาลูกที่บ้านพบเพียงสำรับกับข้าววางทิ้งอยู่ พยายามติดต่อแต่ก็ติดต่อไม่ได้จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง พร้อมกับออกติดตามหานานหลายปีแต่ก็ไม่พบ โดยก่อนเกิดเหตุลูกชายมีเรื่องกับพ.ต.อ.นายหนึ่ง ซึ่งมีไร่อยู่ติดกัน มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งหลายครั้ง โดยพ.ต.อ. กล่าวหาว่าลูกชายเข้าไปขโมยตัดไม้ในที่ดิน และเคยแจ้งความจับลูกชายขโมยรถของภรรยาด้วย แต่ศาลยกฟ้อง
ซึ่งนายตำรวจปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง ที่ผ่านมาพยายามตามหาลูกชายกับลูกสะใภ้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่พบ จนเมื่อเร็วๆ นี้ลูกสาวคนโตที่ทำงานอยู่ร.พ.ตำรวจ ได้รับแจ้งจากคนใกล้ชิดของพ.ต.อ.นายดังกล่าว ว่ารถของลูกชายจอดอยู่ในบ้านหลังนี้ จึงเดินทางมาตรวจดูพบว่าเป็นรถของลูกชายที่หายไปจริงๆ นายสว่าง กล่าวและว่า ตอนนี้ไม่ได้คาดหวังว่าลูกชายและลูกสะใภ้จะมีชีวิตอยู่ แต่อย่างน้อยขอศพมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาก็ยังดี