ลูกทรพีขอเงินไม่ได้ใช้จอบตีแม่ดับ

ชาวบ้านตามจับลูกทรพีส่งตำรวจ ถือจอบวิ่งตามฟาดกลางหัวแม่สลบคาไร่มัน เสียชีวิตระหว่างทางขณะไปโรงพยาบาล แค่ขอเงินไปกินเหล้าแม่ไม่ให้เพราะจะเก็บไว้ทำบุญ ทำร้ายทุบตี พ่อมาห้ามโดนซ้ำ

เรื่องราวสุดสลดที่เกิดขึ้นจากครอบครัว ที่มีลูกติดเหล้า ไม่ยอมทำงาน จนก่อเหตุมาตุฆาต ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.พรหมมินทร์ ภูมิศักดิ์ สารวัตรเวร สภ.อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุมีเหตุฆ่ากันตายที่บริเวณกระท่อมนากลางไร่มัน บ้านซำหวายพัฒนา หมู่ที่ 16 ต.สีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และชาวบ้านได้ล้อมจับตัวผู้ก่อเหตุได้ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.บำรุง ผัดโพธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.อ.น้ำยืนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือนางบุญมี ทบหลง อายุ 56 ปี โดยถูกตีด้วยจอบที่บริเวณศรีษะ ชาวบ้านช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลน้ำยืนและเสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาลและชาวบ้านได้ช่วยกันจับกุมผู้ก่อเหตุได้คือนายวีรภัทร ทบหลง อายุ 28 ปี เป็นบุตรชายของผู้ตาย

จาการสอบสวนเบื้องต้นนายบุญตา ทบหลง อายุ 56 ปี สามีผู้ตาย ทราบว่าก่อนเกิดเหตุในช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.วันที่ 9 ก.พ.ได้นั่งห่อขนมเทียนช่วยนางบุญมี ทบหลง อยู่ที่กระท่อมนากลางไร่มัน เพื่อจะไปทำบุญที่วัดในตอนเช้าเนื่องจากจะมีงานทำบุญประเพณีของหมู่บ้าน ระหว่างที่กำลังนั่งห่อขนมเทียนอยู่นั้น นายวีรภัทร ทบหลง อายุ 28 ปี บุตรชาย อยู่ในอาการเมาสุราได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหา เพื่อขอเงินกับนางบุญมี โดยบอกว่าจะเอาเงินไปกินเหล้ากับเพื่อน ๆในหมู่บ้านเพื่อฉลองงานบุญประจำปีของหมู่บ้าน

แต่นางบุญมี ได้บอกกับลูกชายว่า" แม่ไม่มีเงินเพราะยังไม่ได้ขุดมันไปขาย " ทำให้นายวีรภัทร ไม่พอใจ ตรงเข้าทำร้ายเตะต่อยนางบุญมีล้มลง นายบุญตา ได้เข้าห้ามปรามบุตรชายก็ถูกเตะต่อยอีก และระหว่างที่กำลังถูกบุตรชายทำร้ายอยู่นั้นนายบุญตาได้ตะโกนให้นางบุญมี ภรรยาวิ่งหนีไป นางบุญมี จึงได้ลุกวิ่งหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบริเวณไร่มันห่างจากกระท่อมนาประมาณ 20 เมตร นายวีรภัทร มองเห็น นางบุญมี วิ่งหนี จึงผละจากทำร้ายบิดา คว้าจอบวิ่งตามหานางบุญมี ที่ไปอยู่ในไร่มันโดยใช้ตะเกียงไฟส่อง เมื่อพบตัวก็ได้ใช้จอบที่ถือมากระหน่ำตีแม่ที่บริเวณศรีษะจนล้มแน่นิ่งอยู่กลางไร่มัน ส่วนนายวีรภัทร ได้ไปหลบซ่อนตัวห่างจากที่เกิดเหตุ 100 เมตร

นายบุญตา จึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือให้เพื่อนบ้านที่มีไร่อยู่ติดกันได้ช่วยเหลือ ชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงพากันมาช่วยกันนำนางบุญมี ที่นอนแน่นิ่งอยู่กลางไร่มันส่งโรงพยาบาลน้ำยืนและเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งได้ระดมกันออกติดตามนายวีรภัทร ที่ไปหลบอยู่ในไร่มัน ชาวบ้านได้ออกติดตามจนเจอและได้ช่วยกันจับตัวนายวีรภัทร ได้ที่กลางไร่มันซึ่งอยู่ในสภาพเมาสุรา และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวีรภัทร ไปดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นบุพการีของตนโดยเจตนา

นายบุญตา กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า สงสารภรรยามากที่ตนเองไม่สามารถปกป้องคุ้มครองได้จนต้องมาถูกลูกชายฆ่าตายอย่างทารุณ สำหรับนายวีรภัทร ไม่ยอมทำงาน เอาแต่กินเหล้า " วันๆมีแต่มาขอเงินแม่ไปกินเหล้าถ้าไม่ให้ก็จะถูกทำร้ายทุบตีอยู่เป็นประจำทุกครั้งนางบุญมี ก็จะให้ไปแต่วันที่เกิดเหตุมีเงินอยู่ติดบ้านแค่ 200 บาทโดยนางบุญมี บอกกับผมเองว่าจะเก็บเอาไว้ไปทำบุญที่วัด จึงไม่ได้ให้ลูกเป็นเหตุให้ถูกลูกทุบตีจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามก็ไม่อยากจะติดใจเอาความกับลูกชายที่ฆ่าแม่แต่ก็อยากให้ลูกได้กลับตัวเป็นคนดีไม่กินเหล้าเหมือนเก่า ซึ่งก็แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ"นายบุญตา กล่าว