เสรีพิศุทธ์ ขีดเส้นตาย ตร.ภาค 3 - ไฟไหม้ ร.ร.อีกต้องจับมือเผาได้ใน 10 วัน

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์" เดินสายมอบนโยบาย และติดตามคดีเพลิงไหม้โรงเรียนในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ด้านภาคีโคราชบุกยื่นร้องเร่งสางคดีเผาโรงเรียน-จัดการ ตร.เกียร์ว่าง ยัดเยียดให้ครูเป็นแพะ รักษาการ ผบ.ตร. ชี้ภาค 3 ไฟไหม้โรงเรียนติดต่อกัน 22 ครั้งถือว่าเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

แต่มี 4-5 คดีที่เป็นเหตุการณ์สำคัญ


อาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ป่วนของคลื่นใต้น้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ลั่นขีดเส้นตายหากมีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเกิดขึ้นในพื้นที่อีกต้องเร่งคลี่คลายคดีจับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 10 วัน และต้องเป็นตัวจริงไม่ใช่ "แพะ" หากละเลย ผกก.และผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องรับผิดชอบ พร้อมย้ำนโยบายดูแลและพัฒนาทรัพยากรบุคคลตำรวจให้ดีที่สุด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เดินทางมามอบนโยบาย


วันนี้ (9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมามอบนโยบายการปฏิบัติราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 และติดตามความคืบหน้าคดีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียน โดยมี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยคณะรองผบช.ภ. 3, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, หัวหน้าสถานีตำรวจ ใน 8 จังหวัดอีสานตอนล่างในพื้นที่รับผิดชอบ ตำรวจภูธรภาค 3 และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับกว่า 277 นาย


หลังเดินทางถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์


ได้ตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้นกลุ่มภาคีครูโคราชนำโดย นายวิทยา ดวงใจ ได้เข้ามอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจและยื่นหนังสือเปิดผนึก เรื่องให้ติดตามคดีเผาโรงเรียนต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยเรียกร้องให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ที่ลอบเผาโรงเรียนมาลงโทษโดยเร็ว ให้จัดการตำรวจที่ใส่เกียร์ว่าง อิงอำนาจเก่าไม่สนองนโยบายรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ด้วยการโยกย้ายและไม่ให้มีบทบาทในความรับผิดชอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ครู นักเรียน นักการภารโรงและชุมชนที่ถูกละเมิดยัดเยียดข้อหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแทนที่จะเป็นมือเผาตัวจริง ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รับปากที่จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เข้ารับฟังบรรยายสรุป


จาก พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ. 3 นานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่ง พล.ต.ท.สถาพร รายงานสรุปเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงเรียนในพื้นที 8 จังหวัดอีสานตอนล่างในเขตความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 จนถึงขณะนี้ว่ามีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้น 22 ครั้ง แบ่งเป็น สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว 10 แห่ง รวมผู้ต้องหา 12 คน, เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร 7 แห่ง และคดีอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ติดตามตัวผู้กระทำผิด 5 แห่ง ประกอบด้วย ร.ร.สกัดนาควิทยา อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา, รร.จำนันสายเจริญ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ, ร.ร.บ้านวังปลัด อ.สังขะ จ. สุรินทร์,ร.ร.ชุมชนบ้านนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ. บุรีรัมย์ และ ร.ร.บ้านโสกผักหวาน อ.ทรายมูล จ.ยโสธร

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุการณ์ขู่วางระเบิดรวม 22 ครั้ง ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 7 ครั้ง, บุรีรัมย์-สุรินทร์ จังหวัดละ 5 ครั้ง ,ศรีสะเกษ 4 ครั้ง และ จ. ชัยภูมิ 1 ครั้ง


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสพบว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเกิดขึ้นทั้งสิ้น 22 แห่ง


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากรายงานของตำรวจภูธรภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 จนถึงขณะนี้ พบว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเกิดขึ้นทั้งสิ้น 22 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากและเกิดติดต่อกันขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพราะเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ก็นำมารายงานจึงทำให้มีจำนวนมาก

ปัญหาการวางเพลิงควรจะต้องเน้นไปว่ากรณีใดที่เป็นคลื่นใต้น้ำ หรือเป็นการป่วนเมืองบ้าง แต่ถ้าหากเกิดไฟไหม้ความเสียหาย 200-300 บาทก็รายงานจึงทำให้ตัวเลขมันสูง จากนี้ไปคงจะต้องพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าสถานการณ์อย่างไรควรจะรายงานบ้าง เพราะการรายงานปัจจุบันมันเลอะและมากจนเกินไป เช่น คนขโมยของ 1 บาท ก็เอามารายงาน มันก็มากไป

อย่างไรก็ตาม มีเหตุเพลิงไหม้ 4-5 คดีที่เป็นเรื่องสำคัญ หรืออาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ป่วน ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ แต่ตนยังไม่ได้มีโอกาสลงไปดูรายละเอียดของสำนวนการสอบสวน เพียงแต่ได้สั่งการไปว่าให้ดำเนินการให้เรียบร้อย


ทั้งนี้ สิ่งที่ได้รับรายงานจากภาค 3 นั้น


ดูแล้วการวางแผนในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาชญากรรมหรือเกิดเพลิงไหม้ หรือการวางแผนที่จะไปสืบสวนติดตามถือว่าใช้ได้ และอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก เพียงแต่ได้กำชับไปว่าเมื่อวางแผนกันไปแล้วก็ขอให้ตรวจสอบติดตาม ปฏิบัติและดำเนินการให้เป็นไปตามแผนให้ได้ด้วย ไม่ใช่คิดได้แต่ทำไม่ได้ และวันนี้ได้เน้นให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานีตำรวจ ให้ความสนใจในเรื่องนี้ เช่น เรื่องการติดตามตรวจสอบ การประเมินผลอย่างเป็นระบบที่แท้จริง ไม่ใช่คิดวางแผนแล้วจบทำแบบนั้นไม่ได้ กำกับดูแลติดตาม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า การติดตามการสอบสวนคดีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนของตำรวจภูธรภาค 3 ในวันนี้ (9 ก.พ.) ในภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ เพราะเหลืออีกไม่กี่คดี ซึ่งอันนี้อาจจะต้องดูสำนวนการสอบสวนเป็นพิเศษต่างหากอีกที และในช่วงบ่ายวันนี้ (9 ก.พ.) ตนจะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ โรงเรียนชุมชนบ้านนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าของพื้นที่ได้คัดเลือกให้ลงไปดู ซึ่งเขาวิเคราะห์แล้วว่าควรจะให้ลงไปดูพื้นที่ใด และแนวทางการดำเนินการดีอยู่แล้วเพียงแต่ให้ลงไปติดตามตรวจสอบอย่างจริงจังด้วย


เรื่องเพลิงไหม้โรงเรียนหากเกิดขึ้นมาอีก


"ทางผู้รับผิดชอบจะต้องเร่งสอบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 10 วัน ถ้าไม่ได้ก็จะดูเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผู้กำกับการและผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้เข้มงวดกวดขันเต็มที่ ตามที่ได้พูดคุยสั่งการกันไว้บ้างหรือไม่ ถ้าละเลยก็ต้องว่ากัน หากเขาทำงานอย่างเต็มที่แล้วเราก็จะฟังเหตุผล และกรณีที่จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้จะต้องเป็นคนร้ายตัวจริง ไม่ใช่เป็นการจับแพะ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า


นอกจากนี้การมอบนโยบายในวันนี้ได้ขอให้ผู้บังคับบัญชาได้เน้นเรื่องของคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดกิจการงานต่างๆ สำเร็จได้ด้วยคน จึงได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้เน้นพัฒนาดูแลข้าราชการตำรวจ ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงครอบครัวให้ดีที่สุด และให้ดูแลให้มีความพร้อม ทั้งร่างกายความคิดและจิตใจรวมถึงสวัสดิการต่างๆ ซึ่งตนได้เล่าประสบการณ์ในการบริหารจัดการ การป้องกัน ปราบปราม อาชญากรรม การป้องกันคอมมิวนิสต์ โจรเรียกค่าไถ่ และแนะนำเกี่ยวกับการทำงานในเรื่องการป้องกันและปราบปราม โดยเฉพาะเรื่องเพลิงไหม้ด้วย

สิ่งที่กำชับในการเดินทางมาครั้งนี้คือ


"ขอให้รักษาระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด การปล่อยปละละเลยในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องใดเรื่องหนึ่งก็แล้วแต่อาจจะทำให้เกิดเรื่องที่ 2 เรื่องที่ 3 ตามมาและมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะฉะนั้น ขณะนี้เวลานี้อะไรเป็นปัญหาก็ให้รีบแก้ไขให้ถูกต้อง" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายในตำรวจภูธรภาค 3 เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาเน้นเรื่องนี้ มาครั้งนี้เป็นเรื่องทั่วไปในการปฏิบัติงาน และดูทั่วไปทั้งหมด

ขอขอบคุณ


ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์