เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 8 ก.พ. ร.ต.ต. สุรจิต เพชรจอม ร้อยเวร สภ.ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีคนถูกฆ่าตายอยู่ในโรงสีข้าวไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ริมถนนตรงข้ามสถานีรถไฟนาประดู่ หมู่ 6 ต.นาประดู่ ห่างโรงพักราว 500 เมตร จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต. ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.สมหมาย พุทธคุณ รอง ผบก. พ.ต.ท.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผกก.ป. สภ.อ.โคกโพธิ์ นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ใต้ ´ตัดหัว´ อีก เจ้าของโรงสี
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด
เข้าไปตรวจสอบก่อน เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะซุกระเบิดไว้เพื่อลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ และเมื่อไม่พบวัตถุต้องสงสัยจึงเข้าไปตรวจสอบภายในโรงสีดังกล่าว พบศพผู้เสียชีวิตสภาพถูกตัดหัวนอนตายจมเลือดเป็นที่สยดสยอง ทราบชื่อนายจวน แก้วทองประคำ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ 1 ต.นาประดู่ สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขาสั้น ตามร่างกายถูกฟันด้วยมีดจนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง โดยคนร้ายนำศีรษะของผู้ตายติดมือไปด้วย ในที่เกิดเหตุพบซองปืนพกของผู้ตายตกอยู่ ส่วนอาวุธปืน .38 ของผู้ตายถูกคนร้ายขโมยไปด้วย
สอบสวนทราบว่า
ผู้ตายเป็นเจ้าของโรงสีข้าวดังกล่าว ซึ่งดำเนินการมานานแล้วจนเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ และเป็นบิดาของช่างภาพสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายทำงานอยู่ในโรงสีตามลำพัง ปรากฏว่ามีชาย 2 คน ขี่รถ จยย.มาจอดด้านหน้าโรงสี จากนั้นทั้งคู่ลงจากรถ จยย.พร้อมแบกกระสอบข้าวเปลือก ทำทีจะนำมาให้ผู้ตายสีเป็นข้าวสาร เมื่อผู้ตายเผลอชายทั้งคู่แสดงตัวเป็นคนร้าย ชักมีดสปาร์ตารุมทำร้ายอย่างบ้าคลั่ง ผู้ตายต่อสู้และพยายามชักอาวุธปืน แต่เนื่องจากอายุมากสู้แรงคนร้ายไม่ได้ จึงถูกรุมฟันจนขาดใจตาย จากนั้นคนร้ายยังแสดงความอำมหิต ตัดศีรษะและขโมยปืนพกของผู้ตายไปด้วย โดยทิ้งใบปลิวระบุว่า "นี่คือการแก้แค้นสำหรับเมื่อคืนที่นาค้อเหนือ" เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอาร์เคเคในพื้นที่ ฆ่าตัดคอชาวไทยพุทธ เพื่อข่มขวัญให้เกิดความหวาดกลัวจะได้อพยพออกนอกพื้นที่ คาดว่าคนร้ายจะนำศีรษะของนายจวนไปทิ้งประจานความโหดเหี้ยมไว้ในเขตเมืองเหมือนที่ผ่านมา
สำหรับนายจวน แก้วทองประคำ เป็นเหยื่อชาวไทยพุทธคนที่ 2
ที่ถูกฆ่าแล้วตัดศีรษะนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.เป็นต้นมา โดยก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายก่อเหตุฆ่าตัดคอนายวีระชัย อุตระนิยัง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 1 ต.วังทอง อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู พ่อค้าเร่ขายไอศกรีม เหตุเกิดที่หมู่ 3 บ้านกือยา ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี ต่อมาอีก 2 วัน คนร้ายนำศีรษะนายวีระชัยไปทิ้งไว้ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารในพื้นที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ และยังไม่มีมาตรการป้องกันเหตุร้ายใดๆออกมาเพื่อคุ้มครองชาวไทยพุทธในพื้นที่ สร้างความหวาดผวาให้กับชาวไทยพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก
ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
พ.ต.ท. นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผกก.ป.สภ.อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งว่า มีคนร้ายขว้างระเบิดใส่ร้านน้ำชาไม่มีชื่อเลขที่ 31 หมู่ 5 ต.ป่าบอน จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุ พบรถ จยย.ของชาวบ้านถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย 2 คัน หลังคาและประตูบ้านถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรู นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.โคกโพธิ์ ทราบชื่อ นายอิสมาแอ เจ๊ะแต อายุ 36 ปี นายมะแอ มาหามะ อายุ 45 ปี และนายมะสกรี มะลีมูแย อายุ 32 ปี ทั้ง 3 คน ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวบาดเจ็บ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน และลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในร้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายใช้รถกระบะมิตซูบิชิ ไม่ติดป้ายทะเบียน ขับมาจอดหน้าร้าน แล้วใช้ระเบิดไม่ทราบชนิดขว้างเข้าไปในร้าน แต่โชคดีที่ระเบิดตกลงหน้าร้านที่มีรถ จยย.จอดอยู่ แรงอัดระเบิดทำให้รถ จยย.เสียหาย และสะเก็ดกระเด็นถูกคนที่นั่งในร้านบาดเจ็บ เชื่อว่าเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่สร้างสถานการณ์
นายอัลบาร์ระบุอีกว่า
รัฐบาลชุดปัจจุบันของไทย เปิดกว้างมากกว่ารัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ เนื่องจากมีการติดต่อประสานงานเรื่องต่างๆกับทางมาเลเซียอยู่ ตลอด และว่านายกฯบาดาวีจะหารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย ในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. ในหลายประเด็น รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงตามพรมแดนและปัญหาบุคคล 2 สัญชาติ นอกจากนี้ นายอัลบาร์ยังบอกด้วยว่า มาเลเซียจะหาทางช่วยทางการไทยฝึกครูสอนศาสนาและจัดหาอุปกรณ์การศึกษาเกี่ยวกับศาสนาอิสลามสายกลาง
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ