ตร.สระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกตรวจค้นสำนักสงฆ์รับสักยันต์ให้นักเรียน พบพระเจ้าสำนัก ตรวจสอบหลักฐาน อ้างเจ้าคณะอำเภอนำไปตรวจสอบแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สอบปากคำเด็กที่สักยันต์ พร้อมผู้ปกครองเพื่อเตรียมเอาผิด จับสึกพระ ขณะเดียวกันสาธารณสุขจังหวัดนำทีมหมอให้ความรู้เด็กและชาวบ้านถึงอันตรายของการสักที่ถูกวิธี พบเด็ก 2 กลุ่มชอบสัก พวกเรียนไม่ดี ก้าวร้าว กับพวกเด็กเรียบร้อย
ตร.บุกค้นสำนักสงฆ์สักยันต์นร.
ส่งเจ้าหน้าที่ ลงไปพูดคุยกับเด็กกลุ่มเสี่ยงที่ทำการสักยันต์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.พ. น.พ.วันชัย กิจอรุณชัย ผอ.ร.พ.จิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว โดยน.พ.ณัฐพร วงศ์ศุทธิภากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ส่งเจ้าหน้าที่งานสุขภาพจิต โรงพยาบาลวังน้ำเย็น และสาธารณสุขกิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ จัดทีมเฉพาะกิจ ประกอบด้วยจิตแพทย์ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงไปพูดคุยกับเด็กกลุ่มเสี่ยงที่ทำการสักยันต์ 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนอนุบาลวังสมบูรณ์ โรงเรียนวังสมบูรณ์วิทยาคม และโรงเรียนเขาแหลม เพื่อค้นหาสาเหตุ วิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาวางมาตรการแก้ปัญหาและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียน
น.พ.วันชัย เปิดเผยว่า
จากการพูดคุยให้ความรู้และทำความเข้าใจกับเด็กที่ไปสักยันต์ทั้ง 3 โรงเรียน พบว่าส่วนใหญ่มีสภาพปัญหาคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นที่เห็นเพื่อนไปสักมาแล้วนำมาอวดกัน ทำให้อยากไปสักบ้าง กลุ่มเด็กผู้หญิงถ้ามีรอยสักที่ข้อเท้า สะโพกถือว่าเป็นพวกเดียวกัน อีกส่วนหนึ่งมีความเชื่อเรื่องอาคม นำมาอวดและทดสอบลองของกันในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จากข่าวที่ออกมา ทำให้สังคมสนใจ เด็กเกิดอาการสับสน ตอนแรกไม่คิดว่าสักแล้วจะมีปัญหา จึงกลัวครูและผู้ปกครองว่าจะเดือดร้อนจากสิ่งที่ตัวเองทำไป บางคนรู้สึกผิด ตำหนิตัวเอง เครียด กลัวว่าเมื่อเรียนจบไปแล้วจะหางานทำไม่ได้ จึงพยายามหาทางลบรอยสักกันเองด้วยวิธีการที่ผิด โดยสำนักต่างๆ จะใช้กรดกัดบริเวณรอยสักจนเป็นแผลติดเชื้อ และเด็กบางคนกลัวว่าจะติดเชื้อเอชไอวี สำหรับการลบรอยสักนั้น คิดว่ายังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนตอนนี้ เพราะต้องใช้เงินเยอะ
"เท่าที่ได้พูดคุยกับกลุ่มของอาจารย์ในโรงเรียน พบว่าเด็กที่ไปสักยันต์มีอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกจะเป็นเด็กที่การเรียนไม่ดี มีพฤติกรรมก้าวร้าว อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีปัญหา เรียบร้อย เงียบ แต่ถูกเหนี่ยวนำจากเพื่อน จึงไปสัก กลุ่มนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ" น.พ.วันชัยกล่าว
น.พ.วันชัย กล่าวต่อว่า
สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาในช่วงนี้ ทางหน่วยงานปกครองของกิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ประกาศห้ามเด็กสักยันต์ ส่วนหนึ่งเกิดจากข่าวที่ออกมาขณะนี้ ทำให้เด็กกลัวมากขึ้น และขอชมเชยครูอาจารย์ในโรงเรียนที่เข้าใจเด็ก ไม่ไปตำหนิหรือลงโทษด้วยวิธีรุนแรง เพราะเด็กไม่ใช่อาชญากร แต่อยู่ข้างเด็ก ช่วยกันแก้ปัญหา มากกว่าสร้างปัญหา สำหรับการแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาเด็กได้ข้อมูลด้านเดียว คิดว่าการสักทำให้มีพลังเยอะ ฟันไม่เข้า จึงหันไปสัก แต่ไม่รู้ว่าเมื่อสักไปแล้วลบไม่ได้และมีผลข้างเคียงตามมาหลายอย่าง พยายามให้เด็กมีข้อสรุปว่าถ้าอยากจะสักขอให้บรรลุนิติภาวะก่อน ไม่ต้องรีบที่จะสัก สุดท้ายอยากจะเสนอแนะว่าควรจะมีกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเขาจะได้ไม่หมกมุ่นเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสุวิทย์ เชาวนปรีชา เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 วังสมบูรณ์ นำเจ้าหน้าที่ 5 นาย เดินทางไปตรวจสอบสำนักสงฆ์พุทธสถาน ม.8 บ้านกรองทรัพย์ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว พบว่าที่บริเวณปากทางเข้าวัดมีขอนไม้ และเศษไม้กองใหญ่วางขวางทางเข้า-ออกวัด รถยนต์ไม่สามารถนำเข้าวัดได้ ต้องเดินเท้าเข้าไปที่กุฏิ และศาลา เมื่อไปถึง พบพ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง สว.สบ.2 สภอ.คลองหาด นำเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบภายในวัดเช่นกันซึ่งกำลังเจรจาอยู่กับพระหารณรงค์ สิริจันโท หรือพระคัมภีร์ อายุ 44 ปี เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์พุทธสถานที่สักยันต์แห่งนี้ พร้อมให้เด็กนักเรียนที่สักยันต์มาชี้ดูว่าใช่พระรูปนี้หรือไม่ ซึ่งเด็กยืนยันว่า เป็นพระที่ทำการสักยันต์ อย่างไรก็ตามในการชี้ตัว เจ้าหน้าที่กันไม่ให้พระคัมภีร์เห็นหน้าเด็กที่ไปชี้ตัว
พระคัมภีร์ กล่าวว่า
ตนบวชเป็นพระมากว่า 20 ปี ที่วัดเทพนิมิตร จ.นครปฐม เดิมชื่อนายหารณรงค์ สมบูรณ์สุขโข อยู่บ้านเลขที่ 75/1 ม.4 ต.มหาสวัสดิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังบวชมานานหลายปี จึงย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้ โดยมีชาวบ้านยกที่ให้เป็นที่พักสงฆ์ อยู่มา 8 ปี และตั้งแต่อยู่มา ก่อสร้างถาวรวัตถุให้แก่วัด จนญาติโยมศรัทธาเรื่อยมา โดยดูดวง สะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมนต์ให้ญาติโยม ส่วนเรื่องการสักยันต์นั้นไปเรียนมาที่วัดบางพระ เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระคัมภีร์ถลกจีวรและอังสะให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่ามีรอยสักยันต์เต็มตัว ทั้งหน้าอก แขน ขา ด้านหลัง
จากการสอบถามเรื่องการสักยันต์ ตอนแรกพระคัมภีร์ให้การปฏิเสธ อ้างว่าเป็นพระสมาน ที่ออกจากวัดไปนานแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเด็กที่มาสักยันต์ยืนยัน พระคัมภีร์จึงยอมรับ ทั้งยังรับว่าสักยันต์ให้เด็กผู้หญิงด้วย แต่มีโยมผู้ชายอยู่ด้วยทุกครั้ง บางทีเด็กไปสักกันเอง ตนเห็นจึงบอกว่าไม่ถูกต้อง แล้วสักให้ใหม่ เพราะเดี๋ยวจะเข้าตัว นอกจากนี้ตนยังสั่งว่าเมื่อสักไปแล้ว ห้ามกล่าวคำหยาบ ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ดี
จากนั้นตำรวจขอดูเข็มที่ใช้สักยันต์
พระคัมภีร์ กล่าวว่า พระมหาคำคูณ เจ้าคณะอำเภอคลองหาดเอาไปหมดแล้ว ทั้งใบสุทธิ ใบอนุญาตขอใช้วัด และเข็มสักยันต์ เพื่อไปตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ย. พร้อมทั้งนำคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดห้ามสักยันต์เด็ดขาดมาให้ดูด้วย อาตมาคงจะไม่เอาอีกแล้ว
เมื่อถามว่าทำไมต้องใช้ไม้วางขวางทางปิดทางเข้าวัด พระคัมภีร์ กล่าวว่า เพิ่งจะปิดวันนี้ เพราะเห็นว่าวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ 2 วันก่อน ทั้งพ่อแม่เด็ก เดี๋ยวคนนั้นมา เดี๋ยวคนนี้มา เจ้าคณะอำเภอมา อาตมาอยากอยู่อย่างสงบเลยนำไม้ไปปิดทางเอาไว้
จากการขอตรวจสอบหน้ากุฏิ พบเหล็กยาว 2 อัน ขาดเพียงแต่หัวเข็มเท่านั้น พร้อมขวดหมึก 2 ขวด และขวดยาลงน้ำมัน ซึ่งพระคัมภีร์อ้างว่า ใช้สำหรับสักน้ำมัน และลงอาคมไว้
ด้านนายอดิศร พูลสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านกรองทรัพย์ หมู่ 8 กล่าวว่า ที่ดินของวัดแห่งนี้ แม่ของตนมอบให้ทั้งหมด 11 ไร่ สร้างวัดมา 8 ปีแล้ว พระคัมภีร์อยู่มาตั้งแต่แรก ก็เห็นดี พาชาวบ้านปฏิบัติดี แต่ไม่รู้ว่าท่านสักยันต์ด้วย รู้เพียงแต่ว่าสะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมนต์ ดูดวงชะตา วัดนี้มีพระเพียงรูปเดียว จะมีหลายรูปก็ตอนเข้าพรรษา ถ้ารู้ว่าท่านสักยันต์ให้เด็ก คงจะว่ากล่าวท่านไปแล้ว
พ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง เดินทางมาที่โรงเรียน
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.เกษม วงศ์ทอง สว.สบ.2 เดินทางมาที่โรงเรียนอนุบาลวังสมบูรณ์ พร้อมขอให้นำด.ช.มด(นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ม.1 ที่ไปลบรอยสักเองและไม่ถูกต้องจนเป็นแผลติดเชื้ออักเสบรุนแรง พร้อมผู้ปกครองไปลงบันทึกประจำวัน และสอบปากคำว่าจะเอาเรื่องกับพระรูปนี้หรือไม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายวิศรุต เขียวไพลิน นายอำเภอสอยดาว จ.จันทบุรี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ประการ ประจง ผกก.สภ.อ.สอยดาว นายสมบัติ จงโชติชัชวาล นายกเทศมนตรีตำบลทรายขาว นายเจษฎา จันทบุรานันท์ นายกอบต.ทรายขาว นายทองคำ เครือศรี กำนันตำบลทรายขาว นายชำนาญ เพิ่มพูน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.ทรายขาว นายวิวัฒน์ สุภาพ ปลัดอำเภอสอยดาว นายกำพล ชำนาญเวช ปลัดอบต.ทรายขาว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสอยดาว เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 88/8 หมู่ที่ 12 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ของนายบุญศรี ชัยดี อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านและเจ้าสำนักร่างทรงพ่อแก่ฤาษี ที่เปิดเป็นสำนัก สักยันต์ ให้ชาวบ้าน มีชื่อเสียงทางด้านยืนยงคงกระพัน ซึ่งนายบุญศรีให้การต้อนรับ นำตรวจเยี่ยม ท่ามกลางบรรดาลูกศิษย์เกือบ 50 คน ที่ทราบข่าวเดินทางมาจากต่างจังหวัดสนใจเฝ้าดู
นายวิศรุต พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทรงเจ้า
และการสักยันต์ ซึ่งวันนี้ไม่มีผู้เข้าพิธีการสักยันต์ จากนั้นนายวิศรุตกำชับว่า นายพนัส แก้วลาย ผวจ.จันทบุรี ได้รับการประสานจากผวจ.สระแก้วให้มาตรวจสอบ และกำชับอย่าให้มีการสักยันต์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ถ้าใครมาขอสักยันต์ จะต้องมอบให้นายชำนาญกำกับดูแลตรวจสอบ โดยผู้ขอรับการสักยันต์ต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชน มอบให้นายชำนาญเป็นหลักฐาน พร้อมกำชับเรื่องการทำความสะอาด
ด้านนายบุญศรี กล่าวว่า ทางสำนักไม่ได้รับสักยันต์ให้เด็กนักเรียนนาน 2 ปีแล้ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เด็กวังสมบูรณ์ เดินทางไปสักที่สำนักสงฆ์พรมนิมิต บ้านคลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด ส่วนที่มีข่าวว่ามาสักที่สำนักสงฆ์บ้านนากะชาย ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของตนก็ไม่จริง ทราบว่าไปสักที่สำนักร่างทรง บ้านซับตาเมา อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี การสักยันต์ เด็กแถบชายแดนมักจะไปสักที่สำนักสงฆ์พรมนิมิต อ.คลองหาด และที่บ้านซับตาเมา อ.โป่งน้ำร้อน
นายชำนาญ กล่าวว่า ตนรู้จักนายบุญศรีดี เป็นคนถือสัจจะ มีอาคมดี เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการสักยันต์ให้แก่เด็กเล็กแต่อย่างใด โดยขึ้นป้ายประกาศไม่รับสักยันต์ให้เด็กนานแล้ว ส่วนข่าวว่ามีพระที่สำนักสงฆ์นากะชายสักยันต์ก็ไม่จริง ชาวบ้านรวมตัวออกมาบอกว่า หมู่บ้านนากะชายกำลังพัฒนาในทางที่ดี เกรงเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการสักยันต์ให้แก่เด็กเยาวชน
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด