รวบแล้วจิ้งจอกสังคม “ไอ้โอม”สิบแปดมงกุฎตุ๋นเหยื่อนับร้อยราย

รวบแล้วจิ้งจอกสังคม “ไอ้โอม”สิบแปดมงกุฎตุ๋นเหยื่อนับร้อยราย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ส.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
 
พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ และพ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ ผกก.สส.3 บก.สส ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายชาคร บุญเชิญ อายุ 33 ปี โจรสิบแปดมงกุฎที่ก่อเหตุต้มตุ๋นหลอกเหยื่อมาแล้วนับร้อยราย อยู่บ้านเลขที่ 119 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางกว่า 100 รายการ อาทิ โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 7 ใบ กระเป๋าสตางค์ 33 ใบ เงินสดจำนวนหนึ่ง บัตรประชาชนผู้เสียหาย 33 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต ธนาคารต่างๆ 65 ใบ จับกุมได้ที่บริเวณหน้าทางเข้าอพาร์ตเมนต์บ้านพิพัฒน์ เลขที่ 16 ซอยลาดพร้าว 15 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และขยายผลไปตรวจยึดของกลาง ห้องเลขที่ 705 อพาร์ทเมนท์บ้านพิพัฒน์
 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกผู้ต้องหาใช้อุบายหลอกลวงขโมยเอาทรัพย์สินไปจำนวนมาก

จึงได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “ตามล่าไอ้โอม” www.facebook.com/omehunter และ e-mail : ome_hunt@hotmail.com จนมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกผู้ต้องหาก่อเหตุเข้ามาร่วมบอกเล่าและแจ้งข้อมูลของคนร้าย จนมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน ถึงแม้จะเป็นคดีลักทรัพย์เล็กๆ แต่ความเสียหายเกิดขึ้นจำนวนมาก เชื่อว่ามีผู้เสียหายกว่า 100 ราย และนอกจากจะก่อเหตุลักทรัพย์แล้ว ยังมีผู้เสียหายบางรายถูกข่มขืนด้วย
 

ด้านพล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สิน
 
และของกลางของผู้เสียหายที่ชุดสืบสวนยึดมาได้จาการตรวจค้นห้องพัก 705 อพาร์ตเม้นต์บ้านพิพัฒน์ นายชาคร ก่อเหตุมาแล้ว 100 กว่าราย จากการตรวจสอบมีบัตรประชาชน บัตรของธนาคาร และเอกสารเช่น ใบขับขี่ บัตรข้าราชการ ซึ่งสามารถระบุยืนยันชื่อผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์ได้จำนวน 66 คน ชุดสืบสวนนครบาลจึงตรวจสอบพบว่า นายชาคร มีหมายจับ 5 คดี ทั้งคดีลักทรัพย์ คดีข่มขืน มีหลายคดีที่ขาดอายุความ และอีกหลายคดีก็อยู่ระหว่างการแจ้งความ
 

พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสน.บางนา และกก.สส.บก.น.5 และบก.สส. บช.น.
 
ติดตามจับกุม แต่นายโอม สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ทุกครั้ง ใช้เวลาสืบสวนจับกุมนานกว่า 1 เดือนเศษก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวนายโอมได้ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา นายโอม ได้โทรศัพท์ไปหลอกนายสุเมธ วิวัฒน์วิชา อายุ 48 ปี ช่างภาพนิตยสารแพรว ซึ่งเคยถูกทุบกระจกรถยนต์เหตุเกิดในซอยบางขุนนนท์ 29 ท้องที่สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายลักกล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ก และเงินสด โดยมีไฟล์ภาพถ่าย “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับ “ญาญ่า อุรัสยา” พระเอก-นางเอกดัง ที่จะใช้ลงนิตยสารถูกขโมยไปด้วย นายสุเมธ เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า อยากได้ไฟล์ภาพดังกล่าวคืน นายโอมจึงทำทีโทรศัพท์เข้าไปที่บ้านนายสุเมธ บอกว่า คนร้ายนำทรัพย์สินดังกล่าวมาจำนำไว้ในราคา 6 หมื่นบาท พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส. จึงได้วางแผนหลอกล่อนายโอม จนกระทั่งจับกุมตัวได้
 

ขณะที่น.ส.รตินันท์ หรือนันท์ เหล่าอารักษ์พิบูล อายุ 29 ปี เจ้าของเว็บไซต์ “ตามล่าไอ้โอม” กล่าวว่า นายโอม เคยมาโพสต์ในเว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ว่าอยากฆ่าตัวตาย

ก็เลยเข้าไปพูดคุยบอกว่า “เรายังตกงานอยู่เลยแล้วคุณจะฆ่าตัวตายทำไม” ต่อมา นายโอม ก็โทรศัพท์มาชวนไปทำบุญตอนเช้าซึ่งรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในเว็บไซต์ “ตามล่าไอ้โอม” ตอนเจอกันเขามีกลยุทธ คือ ใช้วิธีจะให้เอาทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดใส่ไว้ในกระเป๋าจากนั้นนายโอม ก็ขอเอากระเป๋าไปถือหลังจากนั้นก็อาศัยทีเผลอขโมยไป ตนตั้งเฟซบุ๊กเพราะไม่รู้ชื่อและนามสกุลคนร้าย และไม่รู้ว่าจะตามตัวมาได้อย่างไร อีกทั้งไม่อยากเกิดเหตุซ้ำกับคนอื่น แต่หลังจากเปิดเฟซบุ๊กมีผู้เสียหายเข้ามาโพสต์ข้อความถูกนายโอมหลอกเป็นจำนวนมาก


จากการสอบสวนนายโอม ให้การว่า คดีลักทรัพย์ตนยอมรับทุกคดี ส่วนคดีข่มขืนนั้นยืนยันว่าไม่เคยทำ

และสามารถตรวจสอบจากภาพวงจรปิดจากสถานที่เกิดเหตุได้ เพราะถ้าข่มขืนจริงผู้หญิงคงไม่เดินจับมือออกมาด้วยกัน เหยื่อที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยมีประมาณ 10-15 คน อุบายที่ใช้ลักทรัพย์ก็คิดเองไม่ได้เลียนแบบภาพยนตร์หรือคนอื่น โดยหาเหยื่อจากอินเตอร์เน็ตโดยการโพสต์ข้อความคุยกัน จากนั้นก็มีการนัดเจอกันแล้วลงมือลักทรัพย์ของเหยื่อ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปให้ครอบครัว เพราะครอบครัวเคยแตกแยกเลิกกับภรรยาซึ่งมีลูกด้วยกัน จากนั้นมาคบหากับผู้หญิงคนหนึ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมจึงหาเงินส่งให้เดือนละ 15,000 บาท 
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวจับกุมนายโอม มีผู้เสียหาย 10 กว่าราย ต่างมาชี้ตัวยืนยัน

หลังจากแถลงข่าวเสร็จชุดสืบสวนได้นำตัวนายโอมออกไป แต่มีผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่งเดินปรี่เข้าไปจะตบหน้านายโอมด้วยความแค้นที่เคยโดนหลอกเอาทรัพย์สินไป แต่ตำรวจได้ห้ามปรามเอาไว้ก่อนควบคุมตัวนายโอมดำเนินคดีต่อไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์