"ร่างมติแก้ไข พรบ."
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ ปรับปรุงวิธีการขังและจำคุก ปรับปรุงการทุเลาการบังคับโทษจำคุก และโทษประหารชีวิตแก่หญิงมีครรภ์ โดยหญิงใดที่จะต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ให้รอไว้ จนพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่คลอดบุตรแล้วจึงประหารชีวิต เว้นแต่บุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้นกำหนด โดยก่อนลงมติสนช. ส่วนใหญ่ ได้อภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ. และเห็นด้วยกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว นายพชร ยุติธรรมธำรง อัยการสูงสุด ในฐานะสมาชิกสนช. อภิปรายตั้งข้อสังเกตว่า
กรณีการประหารชีวิตต้องเป็นคดีอุกฉกรรจ์ แต่หากจำเลยรับสารภาพ ก็มีบทบรรเทาโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต หรือในช่วงเวลาการลงโทษจำเลยก็สามารถขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งที่ผ่านมา 10 ปี ไม่มีการประหารชีวิตผู้หญิงเลย โดยเฉพาะหญิงที่มีครรภ์แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ จึงไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายนี้ เพราะระหว่างการจำคุกมีกระบวนการต่างๆ เพื่อขอลดโทษ เช่น กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะใช้เวลาเป็นปี หรือการต่อสู้คดีก็เช่นกันก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ก็คลอดก่อนศาลจะตัดสิน ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายต้องรอบคอบ