เจเน็ต เขียว แจ้งจับสาวใหญ่เบี้ยวจ่ายเงินซื้อรีสอร์ตเกาะช้าง 13.5 ล้านบาทแถมยังต้องสูญเงินอีกหลายแสนบาท
น.ส.นงนุช สมบูรณ์ หรือ เจเน็ต เขียว อายุ 44 ปี นักแสดงพร้อมทีมงานเดินทางจากกรุงเทพเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประสาท สามารถกุล ร้อยเวร สภ.เกาะช้าง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสมนึก พิมพ์ทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ 8 ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ในข้อหาฉ้อโกง และหลอกลวง
เจเน็ต เขียว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ประกาศขายรีสอร์ท ชื่อ “กรีน คอทเทจ บีช รีสอร์ท" ตั้งอยู่ที่บ้านบางเบ้า หมู่ 1 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในราคา 15 ล้านบาท เนื่องจากทนแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว ไม่มีเวลาที่จะมาดูแลเพราะมีงานละครเข้ามาในช่วงนั้นและประกอบกับมารดาป่วยต้องนำเงินมารักษามารดา และนำมาใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาลงทุน โดยประกาศขายมาตั้งแต่กลางปี 2554 ปรากฏว่า ในช่วงต้นเดือนต.ค. 2554 นางสมนึก ได้เดินทางมาพักที่รีสอร์ทนานอยู่ 2-3 สัปดาห์
ทั้งนี้นางสมนึก ระบุว่า บ้านและธุรกิจที่ตั้งอยู่ใน จ.อยุธยา น้ำท่วมจึงได้หลบมาพักผ่อน ที่ อ.เกาะช้าง ระหว่างพักอยู่ในรีสอร์ท ก็พยายามสร้างความสัมพันธ์กับญาติพี่น้องของตนเองหลายคน พร้อมโอ้อวดว่าเป็นผู้ทำธุรกิจหลายอย่างมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้าน สามารถนำเงินจากพรรคการเมืองหนึ่งมาได้ ที่สุดก็ขอซื้อรีสอร์ทที่ประกาศขายอยู่ 15 ล้าน จากนั้นได้ต่อรองราคาและตกลงขายกันที่ราคา 13.5 ล้านบาท โดยนางสมนึกบอกว่าจะจ่ายให้ใน 2-3 สัปดาห์ อาจจะให้สูงถึง 20 ล้านบาท
“ตอนที่คิดขายเพราะขาดทุน ลงทุนมา 4 ปีได้เงินมาก็ลงทุนปรับปรุง สร้างไปเรื่อย ๆ ทุกปี พอดีแม่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อยากจะนำแม่ไปรักษาที่กรุงเทพฯ และนำเงินไปใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาลงทุนธุรกิจในเกาะช้าง ซึ่งนางสมนึก บอว่าราคาที่ตกลงกันคือ 13.5 ล้านบาท เมื่อได้เงินมาจะให้ 15 ล้านบาท และฝากให้อีก 5 ล้านเป็น 20 ล้านบาท เพราะเป็นคนทำธุรกิจนอกระบบต้องนำเงินไปหมุนเวียนตลอด ทุกคนเชื่อถือเพราะนำเงินมาแสดงหลายครั้ง ที่สุดไม่รู้ใจดีอะไรก็บอกให้นางสมนึก เข้ามาบริหารจัดการรีสอร์ทพร้อมทีมงาน 3 คนที่เป็นชาย 1 หญิง 2 คน ในช่วงเดือน พ.ย. 2554 เป็นต้นมา ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงไฮซีซั่น มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักเกือบเต็มทุกวัน โดย 1 เดือนจะมีรายได้ประมาณ 200,000 กว่าบาท แรกก็เอาเงินมาแบ่งให้กับน้องสาว (กุ้ง) 50% ตอนหลังไม่ให้เลย”เจเน็ต เขียว กล่าว
เจเน็ต เขียว กล่าวอีกว่า ระหว่างที่บริหารในรีสอร์ท นางสมนึก ก็รับว่าจะนำเงินทั้งหมดมาให้ในวันขึ้นปีใหม่ 2555 หลังเข้ามาบริหารงานได้ 3 เดือน มีรายได้หลายแสนบาท แต่ก็ไม่ให้ นอกจากนี้นางสมนึกยังไปหลอกเงินจากน้องสะใภ้ที่ นครราชสีมาไปอีก 800,000 บาท ด้วยการล่อลวงให้น้องสาวที่ดูแลรีสอร์ทพาไป โดยทำทีติดต่อจะซื้อที่ดินจากญาติแต่ก็ไม่ได้ซื้อที่ดินตามที่บอก ซึ่งมาจับได้เมื่อช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ว่านางสมนึก เป็นนักต้มตุ๋น หลอกลวง เพราะมีเจ้าของรีสอร์ทอีก 2-3 แห่ง โดยใช้วิธีการเช่น หลอกเงินจากเจ้าของรีสอร์ทบนเกาะช้างรายหนึ่งด้วยการยืมเงิน 3 หมื่น และเมื่อถึงเวลานำเงินมาคืน 5 หมื่น จนเจ้าของรีสอร์ท ไว้ใจจึงได้ให้เงินไปอีก 500,000 บาท และอีก 1 ครอบครัวรวม 1.4 ล้านบาท และอีกราว 1.1 แสนบาท รวมทั้งหมดเป็นเงินกว่า 2.4 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.ท.ประสาท กล่าวว่า คดีนี้ทาง สภ.เกาะช้างจะเรียกตัวนางสมนึก มารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการต่อไป