วางบึ้มกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ฯ กะช่วยนักโทษแหกคุกกลางวันแสกๆ !
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
วางบึ้มกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ฯ กะช่วยนักโทษแหกคุกกลางวันแสกๆ !
วางบึ้มกำแพงเรือนจำกลางสุราษฎร์ฯ กะช่วยนักโทษแหกคุกกลางวันแสกๆ !เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.อ.ศิริพงศ์ จะรา
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณด้านข้างเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ
ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้านข้างกำแพงเรือนจำกลางฝั่งโรงเรียนสุราษฎร์ธานี พบร่องรอยการระเบิดที่ทำให้พื้นดินเป็นหลุมลึกประมาณ 1 ฟุต ส่วนผนังกำแพงได้รับความเสียหายเป็นรอยแตกเล็กน้อย รอบบริเวณพบชิ้นส่วนและสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่ทั่ว ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 5 เมตรพบสายไฟที่ใช้จุดชนวนและกระเป๋าเป้ 1 ใบ นอกจากนั้นยังพบแม็กนิโต หรือสวิตช์ที่ใช้กดระเบิดให้ทำงานตกอยู่บริเวณนอกกำแพง โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดสังหารบุคคลแบบสำเร็จรูป หรือ เคโม เอ็ม 18 เอ 1 ใช้สวิตช์จุดชนวน มีระยะหวังผลในการสังหารประมาณ 30-50 เมตร ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าจะนำระเบิดมาวางไว้บริเวณริมกำแพงเพื่อหวังให้แรงระเบิดทำให้กำแพงทะลุ แต่แรงระเบิดไม่เพียงพอ ทำให้กำแพงเสียหายบางส่วนเท่านั้น
นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผวจ.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า จุดที่คนร้ายวางระเบิดหวังให้กำแพงทะลุนั้นเป็นกำแพงของแดนที่ใช้กักกันผู้ต้องขังที่มีโทษสูงและคดีอุกฉกรรจ์ โดยจุดประสงค์ของคนร้ายเพื่อหวังทำลายกำแพงให้นักโทษหนีออกมาได้ เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุตรงกับเวลาที่นักโทษออกมาอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัว หากการก่อเหตุวางระเบิดกำแพงประสบความสำเร็จจะทำให้นักโทษหลบหนีออกมาได้ โดยขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบบัญชีรายชื่อนักโทษที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยที่อาจจะวางแผนหลบหนี
ด้านพ.ต.อ.พรศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในโรงเรียนประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า เครื่องแต่งกายสีทึบ ใช้รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกเข้าไปบริเวณสนามฟุตบอล คาดว่าเป็นสถานที่กดชนวนให้ระเบิดทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับการสอบสวนปากคำพยานในเบื้องต้น พบเห็นบุคคลตามลักษณะดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัยคือนำกระเป๋าไปวางไว้บริเวณกำแพง ก่อนเกิดระเบิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ติดกับสถานที่ราชการสำคัญๆ หลายแห่ง อาทิ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด โรงเรียนประจำจังหวัด และศูนย์โทรคมนาคม ส่วนใหญ่จะควบคุมผู้ต้องหาที่มีโทษไม่ร้ายแรง แต่ก็มีการคุมขังผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์และโทษสูงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยล่าสุดได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาได้และอยู่ระหว่างการฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนว่าผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่ พร้อมกับที่ทางจังหวัดได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่ทราบเบาะแสเกี่ยวกับลักษณะของผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินการจับกุมแล้ว
ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้านข้างกำแพงเรือนจำกลางฝั่งโรงเรียนสุราษฎร์ธานี พบร่องรอยการระเบิดที่ทำให้พื้นดินเป็นหลุมลึกประมาณ 1 ฟุต ส่วนผนังกำแพงได้รับความเสียหายเป็นรอยแตกเล็กน้อย รอบบริเวณพบชิ้นส่วนและสะเก็ดระเบิดกระจายอยู่ทั่ว ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 5 เมตรพบสายไฟที่ใช้จุดชนวนและกระเป๋าเป้ 1 ใบ นอกจากนั้นยังพบแม็กนิโต หรือสวิตช์ที่ใช้กดระเบิดให้ทำงานตกอยู่บริเวณนอกกำแพง โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดสังหารบุคคลแบบสำเร็จรูป หรือ เคโม เอ็ม 18 เอ 1 ใช้สวิตช์จุดชนวน มีระยะหวังผลในการสังหารประมาณ 30-50 เมตร ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าจะนำระเบิดมาวางไว้บริเวณริมกำแพงเพื่อหวังให้แรงระเบิดทำให้กำแพงทะลุ แต่แรงระเบิดไม่เพียงพอ ทำให้กำแพงเสียหายบางส่วนเท่านั้น
นายเชิดศักดิ์ ชูศรี ผวจ.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า จุดที่คนร้ายวางระเบิดหวังให้กำแพงทะลุนั้นเป็นกำแพงของแดนที่ใช้กักกันผู้ต้องขังที่มีโทษสูงและคดีอุกฉกรรจ์ โดยจุดประสงค์ของคนร้ายเพื่อหวังทำลายกำแพงให้นักโทษหนีออกมาได้ เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุตรงกับเวลาที่นักโทษออกมาอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัว หากการก่อเหตุวางระเบิดกำแพงประสบความสำเร็จจะทำให้นักโทษหลบหนีออกมาได้ โดยขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบบัญชีรายชื่อนักโทษที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยที่อาจจะวางแผนหลบหนี
ด้านพ.ต.อ.พรศักดิ์ รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในโรงเรียนประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า เครื่องแต่งกายสีทึบ ใช้รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติกเข้าไปบริเวณสนามฟุตบอล คาดว่าเป็นสถานที่กดชนวนให้ระเบิดทำงาน ซึ่งสอดคล้องกับการสอบสวนปากคำพยานในเบื้องต้น พบเห็นบุคคลตามลักษณะดังกล่าวมีพฤติกรรมน่าสงสัยคือนำกระเป๋าไปวางไว้บริเวณกำแพง ก่อนเกิดระเบิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือนจำกลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง ติดกับสถานที่ราชการสำคัญๆ หลายแห่ง อาทิ ศาลากลางจังหวัด ศาลจังหวัด โรงเรียนประจำจังหวัด และศูนย์โทรคมนาคม ส่วนใหญ่จะควบคุมผู้ต้องหาที่มีโทษไม่ร้ายแรง แต่ก็มีการคุมขังผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์และโทษสูงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยล่าสุดได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามและยาเสพติดรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาได้และอยู่ระหว่างการฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนว่าผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่ พร้อมกับที่ทางจังหวัดได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่ทราบเบาะแสเกี่ยวกับลักษณะของผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินการจับกุมแล้ว
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
