แม้ว่าเมืองไทยจะมีกฎหมายห้ามค้าซากศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 "ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น
ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" รวมถึงกฎแห่งศีลธรรมก็ห้ามปรามในทำนองเดียวกัน โดยมีบทลงโทษเป็นกฎแห่งกรรม
ทว่า... ก็ยังมีที่ผู้งมงายในอำนาจมืดมนต์ดำ หวังปฏิหาริย์โชคลาภจากซากศพ โดยเฉพาะที่เรียกว่า "กุมารทอง" จนกลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดมืดค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันความต้องการวัตถุดิบ ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
หลังจากกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) บช.น.
จับกุม นายโจว ฮอง ฮุน อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมของกลางซากกุมารทอง 6 ซาก ภายในห้องพักเลขที่ 613 โรงแรมเอ็มไพร์ ย่านเยาวราช เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ปฏิบัติการแกะรอยที่มาของซากทารกทั้ง 6 ก็เริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งทราบแหล่งที่มาของ 1 ใน 6 กุมารทอง ...มาจากคลินิกทำแท้งเถื่อนที่มีเป้าหมายอยู่ราว 10 แห่ง!!
กุมารทองชี้เป้าทลายคลินิกทำแท้ง
ปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายแรกจึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.วิวัฒน์ คําชํานาญ ผกก.ดส. พ.ต.ท.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ สว.สส.ดส. ร.ต.อ.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ รอง สว.งานสืบสวน ตรวจตราและควบคุม กก.ดส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.บช.น.กว่า 10 นาย และนางจันทนา จินดาถาวรกิจ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจค้นที่อาคารพาณิชย์ 2 คูหาติดกัน สูง 4 ชั้น อาคารหลังแรก เลขที่ 21/49 หมู่ 13 ซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เปิดเป็นคลินิกชื่อ "คันนายาวคลินิกเวชกรรม" รับตรวจโรคทั่วไป ทดสอบการตั้งครรภ์ ตรวจเลือด-ปัสสาวะ และผ่าตัดเล็ก ส่วนอาคารพาณิชย์ติดกันเลขที่ 21/48 ปิดประตูเหล็กม้วนตลอดเวลา
พ.ต.อ.วิวัฒน์ จึงเข้าไปสอบถาม นางสายรุ้ง รัฐแสง อายุ 52 ปี พนักงานคลินิกดังกล่าว
ก่อนขออนุญาตและสั่งให้เจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น.กระจายกำลังเข้าตรวจค้นชั้นบนอาคาร จนไปพบที่ชั้น 2 มีประตูที่สามารถเดินทะลุไปยังอาคารพาณิชย์ติดกันที่ปิดประตูเหล็ก เมื่อเดินขึ้นไปชั้น 3 พบผู้หญิง 3 คนกำลังช่วยกันทำแท้งหญิงสาวรายหนึ่งอยู่ โดยมี น.ส.บุญโสม บุญยิ้ม อายุ 41 ปี เป็นคนทำแท้งหลัก ส่วน น.ส.หอมไกล คำหาญ อายุ 25 ปี และ น.ส.รัญจวน ปักษา อายุ 43 ปี เป็นผู้ช่วย จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
น.ส.บุญโสม ให้การอ้างว่า ก่อนปี 2552 เคยเป็นแม่บ้านให้ น.ส.ธนภรณ์ หรือ "หมอแนน" โพธิ์พนม อายุ 46 ปี
ก่อนมาเป็นลูกมือที่คลินิกทำแท้งชื่อ "ราม 97 เวชกรรม" ถูกบุกจับกุมเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2552 ได้รับการประกันตัวออกมา ต่อมาเมื่อต้นปีถูกชักชวนมาทำแท้งเถื่อนที่คลินิกปากซอยคู้บอน 27 โดยปกติจะรับหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ไม่เกิน 3 เดือน
เบื้องหลังการทลายคลินิกทำแท้งเถื่อนครั้งนี้ มาจากการขยายผลคดีจับกุม "นายโจว ฮอง ฮุน"
หลังจากสืบทราบที่มาของ 1 ใน 6 ซากกุมารทอง จากผู้ต้องหาที่อยู่ในเครือข่ายคดีซากทารก 2,002 ศพที่วัดไผ่เงิน รับสารภาพว่า นำซากทารกจากคลินิกทำแท้ง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 แห่ง ไปขายให้แก่ร้านจำหน่ายเครื่องรางของขลังในราคา 2 หมื่นบาท ก่อนถูกนำไปขายต่อให้กับ "นายโจว ฮอง ฮุน" และกำลังขยายผลจับกุมไปยังคลินิกทำแท้งเป้าหมายทั้งหมด แม้ว่าขณะนี้คลินิกทำแท้งเถื่อนกำลังระวังตัวกันอย่างเต็มที่ก็ตาม
"ต้องมีการกวาดล้างคลินิกทำแท้งเถื่อน เพื่อทำลายต้นตอของการค้าซากทารก หากร้านจำหน่ายเครื่องรางของขลังมีออเดอร์สั่งซื้อ จะรับซื้อในราคา 2 หมื่นบาท หากนำไปปลุกเสกจะขายได้ราคากว่านั้นมาก ซึ่งมันกำลังกลายเป็นธุรกิจ" พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวด้วยความกังวล
ทว่าการปราบปรามกวาดล้างคลินิกทำแท้งอาจกลายเป็นปัญหาสังคมรูปแบบใหม่นั้น พ.ต.อ.วิวัฒน์ มองว่า
สังคมและครอบครัว ต้องปลูกฝังผู้หญิงที่กำลังเติบโต ให้รู้จักการคุมกำเนิด เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต แต่กรณีที่ถูกข่มขืน หรือทารกในครรรภ์ไม่แข็งแรงนั้น โรงพยาบาลทั่วไปสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่จะปล่อยให้มีคลินิกทำแท้งเถื่อนไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย และอาจนำไปสู่ปัญหาการค้าซากทารกได้
ทั้งนี้ การเปิดคลินิกเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต
มีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, กรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวดความผิดฐานทำให้แท้งลูก ตามมาตรา 301-305 อีกด้วย