จากกรณี นางบุญญาพร สาคริก อายุ 54 ปี มารดาของพระเอกชื่อดัง “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” พระเอกละครเรื่องขุนศึก ทางช่อง 3
ถูกเจ้าหน้าที่นำหมายศาลเข้าจับกุมในข้อหาออกเช็คเด้ง หลังจากมีผู้เสียหายได้แจ้งความ ว่าให้นางบุญญาพร ยืมเงินไปลงทุนธุรกิจปล่อยกู้จำนวน 1.5 ล้านบาท แต่ลูกหนี้กลับชิ่งหนีหายหมด สุดท้ายแม่พระเอกชื่อดัง จึงออกเช็คเงินสดให้ ปรากฏว่าเป็นเช็คเด้ง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของเช้าวันที่ 28 พ.ค. น้องสาวของอั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ พระเอกขุนศึก
ได้เดินทางมาถึงที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อติดต่อขอเจรจากับคู่กรณี และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เป็นเงิน 1.5 ล้านบาทตามที่มารดากู้ยืมมาเท่านั้น จากนั้นมีการพูดคุยสักพัก ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจาก คู่กรณี ให้การว่า นางบุญญาพร สาคริก มารดาพระเอกวิก 3 ให้สัญญาว่า จะให้ดอกเบี้ย หรือค่าส่วนเกิน มากกว่า 1.5 ล้านบาท จึงยังไม่ขอถอนแจ้งความ
ก่อนหน้านี้ ทางด้านนางบุญญาพร ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ร่วมทำธุรกิจกับ น.ส.ทอปัด และได้รับเงินจาก น.ส.ทอปัด มา 1.5 ล้านบาท
จากนั้นตนจึงนำไปปล่อยกู้ในอัตราร้อยละ 60 บาทต่อเดือน และคืนเฉพาะดอกเบี้ยไปให้แล้วกว่า 2 ล้านบาท แต่ภายหลังลูกหนี้ที่ปล่อยให้กู้หนีไปหมด จึงทำให้ไม่มีเงินต้นคืนให้ ซึ่งนอกจากจะยืมเงิน น.ส.ทอปัดแล้ว ยังได้ยืมเงินนายหม่อง และเพื่อนอีกคนหนึ่ง มาลงทุนปล่อยกู้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าเป็นมารดาของ “อั้ม อธิชาติ” จริง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนได้ทำขึ้นมาเอง ไม่อยากให้ไปกล่าวพาดพิงถึงลูกชาย เพราะอั้มไม่รู้เรื่องด้วย และเกรงว่าลูกจะเสียชื่อเสียง
“ตอนนี้อั้มยังไม่ทราบเรื่อง และไม่อยากให้รู้ด้วย แต่ถ้าหาเงินมาประกันตัวไม่ได้ คงต้องยอมโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากลูกชายบังเกิดเกล้า” มารดาพระเอกชื่อดัง กล่าวอย่างสุดเซ็ง ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับส่งตัวนางบุญญาพร ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ได้โทรศัพท์ติดต่อนายมาโนช ไทยเจริญสุข ผู้จัดการส่วนตัวของอั้ม-อธิชาติ ได้เปิดเผยว่า
อั้มทราบรายละเอียดหมดแล้วได้ส่งแฟนของน้องสาวที่มีความรู้ด้านกฎหมายเป็นตัวแทนไปพัทยาเพื่อขอข้อมูลจากตำรวจและไปพบนางบุญญาพร ซึ่งพบว่าเป็นแม่จริงๆ ไม่ได้มีการแอบอ้าง อั้มบอกว่ายินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้กับคู่กรณี โดยได้เจรจาขอให้คู่กรณีขอแจ้งความ ซึ่งคู่กรณีก็ไม่มีปัญหา.