ตร.รวบ ภารโรง มือวางเพลิงเผา ร.ร.บ้านตาเหล็งบุรีรัมย์

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจบุรีรัมย์ จับแล้วมือวางเพลิงเผาโรงเรียนบ้านตาเหล็ง เป็นนักการภารโรงผู้แจ้งเหตุเพลิงไหม้ เผยผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากลายนิ้วมือแฝง และพยานแวดล้อมชี้ชัด แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล พร้อมยื่นหลักทรัพย์ 2 แสนบาทประกันตัว ตำรวจเตรียมสืบสวนขยายสาวไปถึงผู้บงการ มุ่งปมความขัดแย้งภายในโรงเรียน

วันนี้ (26 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.จาตุรงค์ ผ่องคำพันธ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.อ.ชำนิ รักษาการ ผกก.สภ.อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่าบายวานนี้ (25 ม.ค.) ได้นำหมายจับจากศาลจังหวัดนางรอง ที่ 22/50 เข้าจับกุม นายงาม จำเนียรกุล อายุ 55 ปี อยู่ บ.หนองปล่อง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ เป็นนักการภารโรง โรงเรียนบ้านตาเหล็ง ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ในข้อหา ลอบวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ

หลังจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 (ป.2) อาคาร 2 โรงเรียนบ้านตาเหล็ง โดยเพลิงได้ลุกไหม้กระดานดำและโต๊ะเก้าอี้เสียหาย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งพยานหลักฐานในเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นเหตุลอบวางเพลิง เนื่องจากมีการนำกระดาษ โต๊ะ เก้าอี้ มาทำเป็นเชื้อเพลิงก่อนจุดไฟเผา แต่เชื้อเพลิงน้อยทำให้ไม่ลุกลามไหม้อาคารทั้งหลัง

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการที่ 21 นครราชสีมา ได้เก็บลายนิ้วมือแฝง พร้อมหลักฐานต่างๆ ที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุหลายจุด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ชำนิได้สอบพยานไปกว่า 50 ปาก ปรากฏว่าผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากลายนิ้วมือแฝง และพยานแวดล้อมชี้ชัดว่าผู้ก่อเหตุวางเพลิง คือ นายงาม จำเนียรกุล นักการภารโรงของโรงเรียนบ้านตาเหล็ง ซึ่งเป็นคนแจ้งเหตุและอ้างว่าเห็นเหตุการณ์เป็นคนแรกนั่นเอง

พ.ต.ท.จาตุรงค์ ผ่องคำพันธ์ รักษาการ ผกก.สภ.อ.ชำนิ จึงได้ขอหมายจับจากศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหา แต่จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล พร้อมทั้งยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 2 แสนบาทขอประกันตัว ซึ่งตำรวจได้ให้ประกันตัวออกไปตามสิทธิ เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ ทั้งลายนิ้วมือแฝง การสอบพยานแวดล้อมที่ชี้ถึงตัวคนร้าย รวมทั้งรอยเท้าจากหน้าต่างที่เกิดขึ้นจากด้านใน ซึ่งชี้ชัดว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้งัดหน้าต่างเข้ามาแต่ไขกุญแจห้องเข้ามาก่อเหตุ และใช้เท้าถีบหน้าต่างออกเพื่อลวงว่าปีนหน้าต่างเข้ามาก่อเหตุ โดยพุ่งเป้ามูลเหตุเกิดจากความขัดแย้งภายในโรงเรียน ที่มีการร้องเรียนกันก่อนหน้านี้

ตำรวจยังจะเดินหน้าสืบสวนต่อ เพื่อสาวไปถึงตัวผู้บงการก่อเหตุลอบวางเพลิงเผาโรงเรียน เพราะมั่นใจว่ายังมีผู้ร่วมวางแผนหรือรู้เห็นในการก่อเหตุวางเพลิงในครั้งนี้ พ.ต.ท.จาตุรงค์ กล่าว