เผาอีกบ้านพักครูที่เพชรบูรณ์วอด

"ชาวบ้านช่วยดับ แต่ดับไม่ไหว"


ไฟไหม้บ้านพักครูที่อ.หนองไผ่ เพชรบูรณ์ วอดทั้งหลัง ชาวบ้านเห็นก่อนแต่ช่วยกันดับไม่ไหว เพราะลมกระโชกแรง คาดถูกลอบวางเพลิง เพราะพบกระป๋องทินเนอร์ กระป๋องสี ยางรถยนต์อยู่ใต้บันได ปลัดมหาดไทยยันวางเพลิงแน่นอน ระบุจุดที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้างตัดวงจรไฟไปแล้ว อาจไม่เกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำ แต่อาจจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวของผอ.ร.ร.

เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.สุนทร สุขศิริ สารวัตรเวรสภอ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งจากนายอนันต์ ธิกะ ครู คศ.2 โรงเรียนบัววัฒนา ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ ซึ่งทำหน้าที่ครูเวรเฝ้าโรงเรียนว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักขอให้ไปสอบสวนด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังเทศบาลตำบลหนองไผ่ให้นำรถดับเพลิงออกไปช่วยดับไฟด้วย และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง

เมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังช่วยกันดับไฟที่ไหม้บ้านพักครู แต่ไม่สามารถทำได้เพราะไฟโหมไหม้รุนแรงมาก เมื่อรถดับเพลิงไปถึงจึงช่วยฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงไฟจึงสงบ ปรากฏว่าไฟไหม้บ้านพักครูวอดไปแล้วทั้งหลัง

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระป๋องทินเนอร์ ขนาดบรรจุ 5 ลิตร กระป๋องสี ขนาดบรรจุ 5 ลิตร และยางรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้เหลือเพียงเส้นลวด กองอยู่ใต้บันได จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

"สมุดเชื้อเพลิงอย่างดี"


จากการสอบสวนนายอนันต์ และนายสมพร สิงห์บุญ ภารโรง ซึ่งทั้ง 2 คน ทำหน้าที่อยู่เวรเฝ้าโรงเรียน ทราบว่า ขณะที่ตนและนายสมพร นอนอยู่ที่อาคารเรียนซึ่งเป็นที่พักสำหรับครูเวร ได้ยินเสียงชาวบ้านที่อยู่ใกล้โรงเรียนร้องตะโกนว่า ไฟไหม้บ้านพักครู ตนจึงลุกขึ้นมาและขอให้ชาวบ้านช่วยกันดับไฟ แต่ก็ทำได้เพียงเล็กน้อย เพราะไฟลุกรุนแรงมาก ประกอบกับบ้านพักครูหลังดังกล่าวไม่มีครูพักอาศัย ทางโรงเรียนได้นำเอกสาร และหนังสือเรียน สมุดนักเรียนที่ใช้แล้วไปเก็บไว้ ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้นั้นตนสังเกตเห็นไฟได้ลุกไหม้ที่บริเวณบันได แล้วจึงลุกลามขึ้นข้างบน

นายนิธิพัฒน์ เสนาะดนตรี นายอำเภอหนองไผ่ กล่าวว่า ตั้งแต่มีเหตุเกิดเพลิงไหม้อาคารเรียนของโรงเรียนในหลายพื้นที่ของภาคต่างๆ ตนได้ประชุมผู้บริหารโรงเรียน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยกันดูแลระมัดระวังไฟไหม้โรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมาเฉพาะในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ประกอบกับที่ตั้งโรงเรียนอยู่ติดกับถนนหลายสายมีทางเข้าออกหลายทาง จึงยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

"รักษาความปลอดภัยอย่างดี ยังโดนเผา"


นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นยืนยันได้ว่าเป็นการลอบวางเพลิง ไม่ใช่สาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้าง และได้มีการตัดวงจรไฟไปแล้ว ตลอดจนจากการสืบสวนสอบสวนรายละเอียดพบว่าไม่น่าจะมีปมประเด็นเกี่ยวพันกับคลื่นใต้น้ำ แต่อาจจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัวของผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ดังนั้น แม้ก่อนหน้านี้ได้มีการกำชับและคาดโทษไว้ แต่กรณีดังกล่าวพบว่าไม่ใช่ความบกพร่องของโรงเรียน เพราะได้มีการระมัดระวัง และจัดเวรยามอย่างเข้มงวด แต่ผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสลงมือในขณะที่เจ้าหน้าที่พลั้งเผลอ อย่างไรก็ตาม ยังคงเข้มงวดกวดขันกับทุกจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากไม่อยากให้มีเหตุการณ์ลักษณ์นี้เกิดขึ้น เพราะจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

ด้านจ.บุรีรัมย์ นายก้องเกียรติ อัครประเสริฐกุล ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ พ.อ.ไกรสุทธินันท์ วงษ์อำนวย ผบ.จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และพ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตกุล รองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เรียกหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัด พร้อมทั้งผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 เขต และผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษาทั้ง 6 แห่ง เข้าประชุมเพื่อทบทวนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน ป้องกันเหตุลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนซ้ำอีก หลังจากมีการวางมาตรการอย่างรัดกุม แต่ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนอย่างต่อเนื่องถึง 6 แห่ง จึงต้องมีการทบทวนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขึ้นอีก พร้อมทั้งการปรับปรุงแก้ไขระบบไฟฟ้าในโรงเรียนทุกแห่งทั้งจังหวัด ที่เก่าและชำรุดเสียหายเพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ หลังจากที่ได้มอบหมายให้สถาบันอาชีวศึกษาออกสำรวจและซ่อมแซม ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์