ดีเอสไอ แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน-ไต้หวัน พบคนร้ายพัฒนารูปแบบจัดฝึกอบรม ทำงานเชื่อมโยงเป็นเฟรนไชน์ แจ้งข้อหาซ่องโจร ด้าน ธ.กสิกร เผยจับตาพื้นที่เสี่ยง รับจ้างเปิดบัญชี สกัดเงินไหลออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 55 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีดีเอสไอ , พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผบก.สส.สตม. , นายไซมอน โฮ เจ้าหน้าที่เอ็มเจไอบี หรือดีเอสไอไต้หวัน , พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและชาวไต้หวัน 22 คน พร้อมของกลางอุปกรณ์ใช้หลอกเหยื่อ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 29/817 โครงการเมืองทองธานี 2 ซ.2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
โดยนายธาริต กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างดีเอสไอและตำรวจตรวจคนเข้า เมือง โดยใช้เวลาสืบสวนนาน 3 เดือน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าขบวนการดังกล่าวมีการพัฒนาวิธีการโน้มน้าวเหยื่อให้ลง เชื่อ โดยจัดให้มีการอบรมเหมือนเป็นอะคาเดมี เพราะมีการฝึกวิธีพูดและลำดับขั้นตอนการหลอกเหยื่อ ล่าสุดพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการทำงานเป็นเฟรนไชน์ที่เชื่อมโยงเครือข่าย ที่หลอกลวงคนไทยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ไปตั้งศูนย์หลอกลวงที่ประเทศจีนหรือ ไต้หวัน
พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 22 คน จะถูกดำเนินคดีพ.ร.บ.คนเข้าเมือง และพ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว เนื่องจากการตรวจสอบวีซ่าของผู้ต้องหาทั้งหมดพบว่าใช้วีซ่านักท่องเที่ยว
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางการไทยสามารถจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ได้จำนวนมาก แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไทยที่ตั้งศูนย์หลอกคนไทยอยู่ในไต้หวันกลับไม่ถูกจับกุม ได้มากเท่าที่ควร ดังนั้น ตนจะพยายามประสานขอความร่วมมือให้มีการจับกุมดำเนินคดีให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่ไปตั้งศูนย์อยู่ที่จีนและไต้หวัน มักเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ขึ้นไป ซึ่งเป็นคนจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนการดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมายเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอให้แก๊งคอ ลเซ็นเตอร์หวาดกลัวความผิด ดังนั้นดีเอสไออาจ พิจารณาแจ้งข้อหาฐานอั้งยี่ ซ่องโจรเพิ่มเติมด้วย พร้อมกันนี้ขอให้ประชาชนช่วยเป็นผู้เป็นตากับเจ้าหน้าที่หากพบว่าบ้านข้าง เคียงมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาพักอาศัยเป็นกลุ่มใหญ่และเก็บตัวทำงานอยู่ร่วมกันอย่าง เงียบ ๆ สันนิษฐานว่าอาจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขอให้แจ้งเบาะแสกับดีเอสไอเพื่อดำเนิน การจับกุมดำเนินคดีด้วย
นายสมชัย พิชิตสุรกิจ รองผอ.ฝ่ายด้านบริหารงานทุจริตลูกค้าบุคคล ธ.กสิกรไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ที่พบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชี ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขตที่มีโรงงานและคนงานอาศัย จำนวนมาก เช่น เขตดินแดง กทม. จ.สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา โดยพฤติกรรมคนเหล่านี้จะนำเงินไปเปิดบัญชีเพียง 500 บาท และถอนออก 300 บาท จากนั้นจะขอขยายวงเงินให้สามารถเบิกได้วันละ 200,000 บาท
นายไซมอน กล่าวว่า ในแต่ละปีมีชาวไต้หวัน ตกเป็นเหยื่อของแก๊ง คอนเซ็นเตอร์จำนวนมาก และต้องสูญเงินมากกว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท โดยกลุ่มคนร้ายมีหลายกลุ่มและจะกระจายออกกันมาตั้งศูนย์คอนเซ็นเตอร์ในต่าง ประเทศ ทั้งไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา เพื่อโทรกลับไปหลอกลวงชาวไต้หวันให้โอนเงินเข้าบัญชีในลักษณะเดียวกับที่ กระทำในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาทางการไต้หวันได้พยายามติดตามแก๊งคนร้ายดังกล่าวเพื่อสืบหาตัว การใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ได้ข้อมูลเพียงว่าผู้บงการใหญ่น่าจะอยู่ที่ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา จึงต้องทำการขยายผลสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีวัยรุ่นทั้งชาวจีนและไต้หวันรวมตัวกันตั้งเป็นแก๊งคอนเซ็นเตอร์ซึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่ดี และยอมรับว่าอัตราโทษตามกฎหมายที่ประเทศไต้หวันหากร่วมกระทำความผิดลักษณะ นี้จะมีโทษเล็กน้อยจำคุกเพียง 3 ปีเท่านั้น