ตร.พัทยา รวบโจ๋ขาขาดวัย 17 ปี เอเย่นต์ยาไอซ์ขณะพกยาไอซ์ขี่จยย.ออกมาซื้ออุปกรณ์การเสพ ตรวจสอบพบรถที่ขี่มาเป็นรถถูกขโมย พาไปค้นห้องเจอทะเบียนรถที่ถูกขโมยมาอีกเพียบ
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 27 มีนาคม 2555 ร.ต.ท.วิษณุ ไชยสุวรรณ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังร่วมกันจับกุมตัว นายบอย (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หนุ่มพิการขาขวาขาด อาชีพรับจ้างสักลาย มีบ้านพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 183 ม.1 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 1 ถุงเล็ก น้ำหนัก 0.58 กรัม รถจักรยายนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สี น้ำตาลคาดขาว ทะเบียนป้ายแดง หมายเลข 8-1980 สภ.พัทยา จำนวน 1 คัน ควบคุมตัวมาสอบสวน หลังจากพบ นายบอย ซึ่งเป็นชายพิการขาขวาขาดตั้งแต่หัวเข่าลงไปโดยสวมใส่ขาปลอมไว้ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ของกลางมาซื้อโจ๋แก้ว(อุปกรณ์การเสพยาไอซ์) ที่บริเวณร้านรับเป่าแก้วที่บริเวณซอยกอไผ่ ซอย5 ซึ่งตำรวจขอตรวจค้นตัวก็พบยาไอซ์ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง
จากการสอบสวน นายบอย ให้การว่ามีอาชีพรับสักลาย อยู่ที่บ้านใน ต.ห้วยใหญ่ และรับสารภาพว่า ซื้อยาไอซ์มาจากเพื่อนแก๊งป่าช้าจีน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง เพื่อนำไปเสพและขี่รถมาซื้อโจ๋แก้วเพื่อนำไปเป็นอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ แต่ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเป็นเอเย่นต์จำหน่ายยาไอซ์จึงนำตัวมาทำการ สอบสวนเพื่อขยายผล และจากการตรวจสอบข้อมูลจากทะเบียนรถของผู้ต้องหาก็พบทะเบียนรถกับตัวรถไม่ ตรงกันซึ่งทะเบียนรถที่ติดกับรถมานั้นเป็นรถจักรยานยนต์คนละคันและยังถูก เจ้าของรถแจ้งความหายไว้ด้วย
นายบอย สารภาพว่า รถที่ตนขี่มานั้นเป็นรถที่ขโมยมาและได้นำทะเบียนรถของรถคันอื่นซึ่งเป็นป้าย ทะเบียนรถที่ได้ขโมยมานานแล้วเช่นกันเอามาติดอำพรางไว้เพื่อกันตำรวจจะสงสัย ตำรวจจึงตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ของรถก็พบว่า รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาขับขี่มานั้นเป็นรถที่เจ้าของรถชื่อ น.ส.เสริม รุ่งเรือง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 444/1165 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเดิมจะติดป้ายทะเบียนป้ายแดง หมายเลข ง-1616 สภ.สัตหีบ เจ้าของรถได้จอดบริเวณหน้าหอพักซอยข้างหน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัทยา และถูกคนร้ายขโมยไปซึ่งแจ้งความว่าหายไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 หรือ 1 อาทิตย์ที่ผ่าน โดยเจ้าของมาแจ้งความไว้ที่ สภ.บางละมุง (สาขาหนองปรือ) จึงแจ้งเจ้าของรถให้มาตรวจสอบพร้อมนำเอกสารรถและใบแจ้งความมายืนยัน ซึ่งเจ้าของรถได้เดินทางมาตรวจสอบรถก็ยืนยันว่าเป็นเจ้าของรถจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้น่าจะเป็นทั้งเอเย่นต์ขายยาเสพติดและแก๊งขโมยรถจึงได้สอบสวนเพื่อขยายผล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายบอย ผู้ต้องหา ไปทำการตรวจค้นที่ห้องเช่าของผู้ต้องหาภายในซอยเทพประสิทธิ์7 ซึ่งจากการตรวจค้นภายในห้องก็พบหลักฐานเป็นอุปกรณ์การงัดแงะสำหรับขโมยรถ จักรยานยนต์จำนวนมากรวมถึง แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ถูกผู้ต้องหาขโมยมาอีกจำนวน 4 แผ่น ประกอบด้วย 1.แผ่นป้ายหมายเลข งฉล-180 ชลบุรี 2.แผ่นป้ายทะเบียน งฉจ-26 ชลบุรี 3.แผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข จงค-766 ชลบุรี 4.แผ่นทะเบียนป้ายแดงหมายเลข ง-1616 สภ.สัตหีบ ซึ่งแผ่นทะเบียนป้ายแดงหมายเลข ง-1616 สภ.สัตหีบ เป็นป้ายตัวจริงของรถจักรยานยนต์ที่ถูกจับกุมมาได้พร้อมผู้ต้องหา และเล่มสมุดเขียวเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ อีก 2 เล่ม ระบุหมายเลขทะเบียน จขก-833 ชลบุรี และ หมายเลข คยธ-236 ชลบุรี และหมวกกันน็อคอีก6ใบ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับสรภาพว่า เป็นแผ่นป้ายทะเบียนรถทั้งหมดนั้นเป็นป้ายที่ติดมากับรถจักรกยานยนต์ที่ตน ขโมยมาจากในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง หลังขโมยรถมาก็ถอดป้ายทะเบียนออกบางป้ายก็สับเปลี่ยนใส่กับรถคนละคันเพื่อ อำพรางแล้วเอารถไปขายต่อให้กับเพื่อนในราคาคันละ 2,000-5,000 บาท แล้วแต่สภาพรถว่า ใหม่หรือเก่า โดยผู้ต้องหารับว่าก่อเหตุขโมยรถมาแล้วมากกว่า10คันแต่อ้างว่าก่อเหตุเพียง คนเดียว
อีกทั้ง ภายหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายบอย ผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมเพื่อขยายผลติดตามรถที่ถูกขโมย มารวมถึงคันอื่นๆและขยายผลว่า มีเพื่อนร่วมแก๊งอีกหรือไม่ พร้อมกับแจ้งให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถตามแผ่นป้ายทะเบียนของกลางที่ แจ้งพบในห้องของผู้ต้องหามายืนยัน ซึ่งมีผู้เสียหายเดินทางมาพร้อมเอกสารแจ้งความแล้วจำนวน2ราย
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายบอย ผู้ต้องหารายนนี้ ในข้อหา “มียาเสพติดให้ โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” ไว้ก่อนและจะได้ทำการขยายผลตามับกุมตัวเพื่อนร่วมแก๊งซึ่งเชื่อว่ามีหลายคน และตามรถของกลางที่ผู้ต้องหาก่อเหตุมาทั้งหมดกลับคืนก่อนส่งตัวให้พนักงาน สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป