คุก3ปี4เดือนยายวัย73ปีทำร้ายผู้อื่น

คุก3ปี4เดือนยายวัย73ปีทำร้ายผู้อื่น

ศาลสั่งจำคุก 3 ปี 4 เดือน คุณยายวัย 73 ปี ขึงลวดปล่อยไฟ 220 โวลต์ทำร้ายผู้อื่น ระบุทำเกินกว่าเหตุ โดนความผิดครอบครองใบกระท่อม 41 กก. อีกกระทง

27 มี.ค.55 ที่ห้องพิจารณาคดี 613 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1947/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางทองดี หรือแป๋ว แจ่มศรี อายุ 73 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

โดยคดีนี้โจทก์ ยื่นฟ้อง ระบุว่า ระหว่าง วันที่ 10-11 ก.พ.54 จำเลยมีเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล เมื่อเดินสายไฟฟ้าเชื่อมต่อตู้วงจรไฟฟ้าจากบ้านพักอาศัยของจำเลย แล้วเชื่อมต่อกับลวดโลหะเปลือยที่ขึงไว้ล้อมรอบบริเวณบ้าน เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงดัน 220 โวลต์ วิ่งผ่านไว้เพื่อป้องกันคนร้ายที่จะเข้ามาลักทรัพย์ในบริเวณบ้าน ขณะนั้นมีนายมะรอปี ลังแม เดินไปยังบริเวณรั้วบ้าน ก่อนขาจะเกี่ยวกับลวดที่จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าจนถึงแก่ความตาย สมเจตนาฆ่าของจำเลย นอกจากนี้ภายในบริเวณที่ดินของจำเลย ยังปลูกพืชกระท่อม 30 ต้น น้ำหนัก 41 กิโลกรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมิได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน และให้การปฏิเสธในชั้นศาล

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นายมะรอปี ลังแม ที่ร่องสวน ใกล้รั้วบ้านของจำเลย ที่ข้อเท้าผู้ตายมีลวดเกี่ยวโยงมาจากรั้วบ้านของจำเลย ที่จำเลยเป็นคนให้หลานนำลวดไปล้อมรั้วไว้ เพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ป้องกันขโมย

มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาหรือไม่ เห็นว่า จากสภาพศพของผู้ตาย ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน เชื่อว่าผู้ตายถึงแก่ความตายจากการที่จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าจริง แต่จากคำเบิกความของผู้เชี่ยวชาญเรื่องไฟฟ้า ทราบว่าการปล่อยกระแสไฟฟ้าดังกล่าวจะทำให้คนตายได้ต่อเมื่อ ถูกไฟฟ้าดูดเป็นเวลา 3-6 นาที และเมื่อมีคนถูกไฟดูด ตู้วงจรไฟฟ้าจะส่งเสียงกริ่งร้อง เพื่อเตือนให้เจ้าของบ้านตัดกระแสไฟฟ้า เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเพียงป้องกันตัว และปรามไม่ให้ขโมยเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้าน

นอกจากนี้ยังได้ความจากเจ้าหน้าที่อาสาตำรวจบ้านพยานจำเลย เบิกความ ว่าบ้านของจำเลยเป็นที่เปลี่ยว บริเวณดังกล่าวมีการลักขโมยเกิดขึ้นหลายครั้งนั้น จึงเป็นเหตุจำเป็นที่จำเลยต้องดูแลป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน แต่การปล่อยกระแสไฟฟ้าสูงถึง 220 โวลต์ เป็นเรื่องที่เกินกว่าเหตุ อีกทั้งจากการตรวจพิสูจน์ศพพบว่า ร่องน้ำที่พบศพผู้ตายไม่ใช่ทางสัญจรตามปกติ เชื่อว่าผู้ตายลักลอบเข้าไปเพื่อขโมยใบกระท่อมที่ จำเลยปลูกไว้ ก่อนจะแหวกรั้วหลบหนี แต่ขาไปเกี่ยวขดลวดดังกล่าวกระทั่งถูกไฟฟ้าดูดเสียชีวิต เห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จำเลยยังมีความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) อีกด้วย เนื่องจากลักษณะการปลูกที่เป็นแถวเป็นแนว พร้อมติดตั้งระบบฉีดน้ำ แสดงว่ามีการดูแล จำเลยเคยโดนดำเนินคดีเรื่องปลูกต้นกระท่อมมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ทำลายทิ้ง ทั้งที่สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐไปทำลาย จำเลยจึงมีความผิดฐานผลิตพืชกระท่อมโดยไม่ได้รับอนุญาต

พิพากษาว่า ให้จำคุกจำเลย 3 ปี ฐานทำร้ายผู้อื่นอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย , ฐานผลิตพืชกระท่อมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสิ้น เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน และให้ริบของกลางใบกระท่อมจำนวน 41 กิโลกรัม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์