รวบทันควันแก๊งโหด! รุมตีหัวชิงทรัพย์ นักศึกษาปี 3 ม.สยาม

ตร.รวบทันควันแก๊งโหดชิงทรัพย์หนุ่มนักศึกษา ม.สยาม โดยรุมชกต่อย และใช้ไม้ตีศีรษะจนสลบ ก่อนลากตัวไปโยนทิ้งคลองระบายน้ำ หวังฆ่าปิดปาก แต่โชคดีไปติดอยู่ริมตลิ่ง รอดตายหวุดหวิด จากนั้นจึงเข้าแจ้งความ และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

เมื่อวันนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.อภิชัย ดุษฏีพฤฒิพันธุ์ สว.สส.สน.ภาษีเจริญ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม และร่วมกันสอบปากคำ นายธงชัย บุญประเสริฐ อายุ 24 ปี และนายจักรพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ นายมงคล โพทยา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 296 หมู่ 6 ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นักศึกษามหาวิทยาลัยสยาม ชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกคอมพิวเตอร์

ต่อมา นายมงคล ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัว พร้อมกับเปิดเผยรายละเอียด ว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนไปทำรายงานกับเพื่อนที่หอพักรุ่งฟ้า ภายในซอยเพชรเกษม 36 จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.ตนจึงเดินกลับมาที่ห้องพักภายในซอยเพชรเกษม 44 ระหว่างนั้นมีกลุ่มผู้ต้องหาประมาณ 3-4 คน เดินเข้ามาขอเงินไปกินเหล้า 100 บาท ด้วยความกลัว จึงส่งเงินไปให้ จากนั้นทั้งหมดก็พาตนเดินเข้ามาในซอยเพชรเกษม 42 โดยบอกว่า จะพาไปกินเหล้า แต่ก่อนจะถึงที่เกิดเหตุ ตนได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ใต้ท้องรถคันหนึ่ง โดยมีกลุ่มของผู้ต้องหาวิ่งตามมา

นายมงคล กล่าวต่อว่า ขณะที่หลบซ่อนตัวอยู่นั้น กลุ่มของผู้ต้องหาที่วิ่งตามมา หาตนจนเจอและได้เรียกให้ออกมา ซึ่งเมื่อตนออกมาหา ทั้งหมดก็รุมชกต่อย และใช้ไม้ตีที่ศีรษะจนสลบ ก่อนช่วยกันปลดทรัพย์สิน และเอาโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่า รุ่น 650 จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 100 บาท และสร้อยคอสเตนเลส 1 เส้น พร้อมพระและตะกรุดที่ห้อยคอไว้ จากนั้นได้ลากตัวไปโยนทิ้งภายในคลองบางจาก ซึ่งอยู่บริเวณกลางซอยเพชรเกษม 42 หวังฆ่าปิดปาก ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี แต่โชคดีที่ตนตกลงไปนอนหงายอยู่ริมตลิ่ง ทำให้ไม่จมน้ำ และรอดชีวิตมาได้ เมื่อรู้สึกตัวก็ไม่กล้าไปไหน เพราะกลัวจะเจอกับคนร้าย จึงนอนแช่อยู่ในน้ำจนกระทั่งเช้า จึงรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ จากนั้นจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ กระทั่งตำรวจติดตามจับกุมไว้ได้

ขณะที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า พวกตนร่วมกับนายแบงก์ ไม่ทราบนามสกุล ที่หลบหนีอยู่ ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้จับโยนทิ้งน้ำ เพราะหลังจากผู้เสียหายสลบแล้ว ก็ได้แยกย้ายกันหลบหนี โดยนำเอาโทรศัพท์มือถือไปแลกยาบ้า กับ นายพิพัฒน์ อุ๊นพันธุ์ และนำมาแบ่งกันเสพ

จนกระทั่งมาถูกจับ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางเข้าจับกุมตัวนายพิพัฒน์ ไว้ได้ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย นอกจากนั้น นายจักรพงษ์ ยังรับสารภาพอีกว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2550 เคยร่วมกับนายอภิรักษ์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายคนหนึ่ง ภายในซอยที่เกิดเหตุ จึงนำกำลังเดินทางเข้าจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุด เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในซอยเพชรเกษม 42 ท่ามกลางชาวบ้านที่พากันมาดูกันจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเด็กในซอยที่เกิดเหตุ