เผาป่วนกระหน่ำสุรินทร์ ไหม้วอด

ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญของวัดไชยมงคล บ.กระเทียม ม.13 ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาห่างจากบ้านเรือนประชาชน ประมาณ 700 เมตร ได้รับความเสียหายทั้งหลัง

ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญหลังใหญ่ขนาด 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ใช้เป็นกุฎิที่พักสงฆ์ และเก็บทรัพย์สินสิ่งของต่างๆ ของวัด รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนของพระสงฆ์ ทั้งหมด

ช่วงก่อนเกิดเพลิงไหม้ได้เกิดกระแสไฟฟ้าภายในวัดดับ พระสงฆ์ที่อยู่ในห้องพักบนศาลาการเปรียญชั้น 2 ได้ลงมาอยู่ข้างล่างและยืนยันว่าไม่ได้จุดเทียนทิ้งไว้แต่อย่างใด แต่มีเสียงดังขึ้นที่ชั้น 2 ซึ่งไม่ได้มีใครให้ความสนใจ

กระทั่งมีไฟได้ลุกไหม้ขึ้นจากห้องพักสงฆ์อีกห้องซึ่งเป็นห้องว่างเปล่าไม่มีพระสงฆ์เข้าพัก

และเพลิงได้โหมไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะศาลาการเปรียญชั้น 2 สร้างด้วยไม้ทั้งหมด และใช้เป็นที่เก็บ หมอน เสื่อ โต๊ะ เก้าอี้ หนังสือ สบง จีวร ที่ญาติโยมประชาชนนำมาทำบุญ จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

มีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การเรียน การสอน และถ้วยชามเก้าอี้ พลาสติก บางส่วนที่พระสงฆ์ สามเณรและชาวบ้าน สามารถช่วยการขนหนีไฟออกมาได้บ้าง

อย่างไรก็ตามนอกจากศาลาการเปรียญแล้ว รู้สึกเสียดายทรัพย์สินที่สะสมเป็นสมบัติของวัดมานานหลายปี และเป็นสิ่งของที่เตรียมไว้ใช้ในกิจกรรมบวชสามเณรภาคฤดูร้อนในช่วงปิดภาคเรียนนี้ ต้องมาถูกไฟไหม้ทั้งหมดด้วย

ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางลงพื้นตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้ง ซึ่ง พระบุญเกิด นาทะธรรมโม เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล

ได้ยืนยันกับนายอำเภอสังขละและผู้อำนวยการฯ ว่า

ช่วงเกิดเหตุไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ภายในวัดเพราะไฟฟ้าดับ และพระสงฆ์ไม่ได้จุดเทียนทิ้งไว้ แต่มีชาวบ้านพบวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวัดไปอย่างผิดสังเกตุ พร้อมตระโกนบอกชาวบ้านว่า เกิดไฟไหม้ขึ้นที่วัด

ชาวบ้านจึงออกมาช่วยกันขนทรัพย์สิน ออกได้บางส่วน และวัยรุ่นดังกล่าวก็ได้หลบกนีหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวานนี้ ( 19 ม.ค.) ได้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักครูหลังเก่า ของโรงเรียนบ้านวังปลัด ต.ทับทัน อ.สังขละ ซึ่งเบื้องต้นทุกฝ่ายเชื่อว่าเป็นการลอบวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย

และคืนวันนี้( 20 ม.ค.) ได้เกิดเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญวัดไชยมงคล บ้านกระเทียม ม. 13 ต.กระเทียม อ.สังขะ เสียหายทั้งหลังขึ้นอีก ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่กองวิทยาการ ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จะได้เข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุอย่างชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคไทยรักไทย (ทรท.)

มี นายธีระศักดิ์ เตียวเจริญโสภา เป็นอดีต ส.ส.ในเขตเลือกตั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นพื้นที่มีการเคลื่อนไหวของคลื่นใต้น้ำ เช่น การโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช.) และรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้จับตาติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถจับกุมผู้พยายามสร้างสถานการณ์

และโปรยใบปลิวได้แบบคาหนังคาเขา จนมาเกิดเพลิงไหม้โรงเรียน และวัดติดต่อกัน 2 ครั้ง ในภาย 2 วัน ดังกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์