จ่อยิงหัว-จับยัดถัง ม.6ฆ่าเสี่ย ล้างหนี้บอล7แสน

น.ร. ม.6 ก่อคดีสยองขวัญฆ่าโหดล้างหนี้พนัน 7 แสน เผยลูกชายวัย 17 ปีของอดีตนายกเล็กที่ระยองเป็นหนี้พนันบอลลูกชายนักข่าวน.ส.พ.ฉบับหนึ่งเกือบล้าน วางแผนลวงเหยื่อออกมาเจอ บอกจะพาไปเอาเงินจากพ่อมาใช้หนี้ พอถึงกลางทางก็จ่อยิงหัวเหยื่อดับอนาถ แล้วให้ลูกน้องช่วยกันแบกศพไปยัดถัง 200 ลิตรในคอกวัวของพ่อ แล้วไปเรียนตามปกติอยู่ 2 วันก่อนโดนตร.บุกจับพร้อมสมุน สารภาพโดนผู้ตายขู่จะไปฟ้องพ่อว่าเป็นหนี้พนันบอลเลยวางแผนฆ่าโหด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ม.ค. พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ รองผบช.ภาค 2 พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุก รองผบก.ระยอง พ.ต.อ.สาธิต เจริญพิภพ รองผบก.ระยอง พ.ต.อ.จรัล จิตเจือจุล ผกก.สภ.อ.แกลง จ.ระยอง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาฆ่านายนฤพล บุญช่วยเหลือ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/14 ถ.สุนทรภู่ ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ลูกชายของผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งญาติแจ้งความไว้ที่สภ.อ.แกลงว่านายนฤพลได้หายออกไปจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากมีการแจ้งความว่านายนฤพลหายตัวไปแล้ว ตำรวจสภ.อ.แกลงสืบสวนสอบสวนจนได้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาคือ นายธนภาส หรือโน้ต ตังสวานิช อายุ 17 ปี อยู่บ้านลขที่ 7/1 ถ.สุขุมวิท ต.วังหว้า อ.แกลง ปัจจุบันเรียนอยู่ ชั้นม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.แกลง และเป็นลูกชายอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทางเกวียน อ.แกลง พร้อมด้วยนายประพันธ์ บำรุง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 ม.1 ต.น้ำเป็น กิ่งอ.เขาชะเมา จ.ระยอง

นายธนภาสให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือสังหารนายนฤพล สาเหตุเพราะเป็นหนี้พนันบอลกับผู้ตายเป็นเงินประมาณ 7 แสนบาท แต่ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาจ่าย และถูกนายนฤพลขู่ว่าจะนำเรื่องไปบอกพ่อ จึงได้วางแผนหลอกผู้ตายว่าจะพาไปพบพ่อ เพราะพ่อเป็นคนใช้หนี้พนันบอลทั้งหมดให้ โดยมีนายประพันธ์ ซึ่งเป็นคนทำงานในบริษัท เอสแอนด์แอล วู้ดเทค จำกัด เป็นโรงงานไม้ยางของพ่อ และมีคอกเลี้ยงวัวพันธุ์อยู่ด้านหลังบริษัท เป็นคนขับรถฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ทะเบียน ก 3142 ระยอง ไปรับนายนฤพลที่บ้านเลขที่ 29/14 ถ.สุนทรภู่ ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง โดยให้ผู้ตายนั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนตนนั่งเบาะด้านหลัง

นายธนภาสให้การว่า จากนั้นก็ได้ให้นายประพันธ์ขับรถมุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท บริเวณก่อนถึงปั๊มเจ็ทประมาณ 200 เมตร ริมถนนสุขุมวิท ม.6 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง นายประพันธ์ทำทีจอดรถข้างทาง ตนจึงได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ขึ้นมาจ่อยิงเข้าไปที่ท้ายทอยของนายนฤพลจนฟุบลงไปกับคอนโซลด้านหน้าเสียชีวิตทันที ตอนแรกคิดจะนำศพไปเผานั่งยางอำพรางคดี โดยให้นายประพันธ์ขับรถวนเวียนเข้าไปที่ป่าหญ้าห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. แต่ก็ไม่กล้าทิ้งศพ เพราะใกล้กับบ้านคน จึงได้เปลี่ยนใจให้นายประพันธ์ขับรถเข้าไปในบริษัทไปจอดอยู่ที่หน้าคอกวัว

"พอถึงคอกวัวผมกับนายประพันธ์ก็ช่วยกันอุ้มศพใส่ในถัง 200 ลิตรแล้วกลิ้งเข้าไปเก็บไว้ภายในคอกวัว พร้อมทั้งปิดฝาไว้ ก่อนจะนำเอาทรัพย์สิน กระเป๋าเงินของผู้ตายไปทิ้งไว้ข้างคอกวัว เอาผ้าที่เช็ดคราบเลือดไปเผา พร้อมทั้งโยนปลอกกระสุนทิ้งข้ามกำแพงไปในป่าหญ้า ก่อนจะนำรถมาล้างคราบเลือดจนสะอาด จากนั้นก็กำชับให้นายประพันธ์ว่าอย่าแพร่งพรายให้ใครรู้ แล้วก็ทำตัวปกติ ไปโรงเรียนเหมือนทุกวันจนกระทั่งมาถูกจับเมื่อกลางดึกวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา" นายธนภาส มือปืน ม.6 กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทำการจับกุมตัวนายธนภาสแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดรถเก๋งซีวิค สีเขียว ทะเบียน ก 3142 ระยอง และจากการตรวจค้นภายในพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก และกระสุน 7 นัด และกระสุนปืนวินเชสเตอร์จำนวน 73 นัด โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6600 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นมือถือของผู้ตาย และเศษผ้าเปื้อนเลือดจำนวนหนึ่ง

ส่วนนายประพันธ์ บำรุง ผู้ต้องหาอีกรายนั้น ให้การว่า ไม่รู้ว่านายธนภาสจะลงมือสังหารนายนฤพล เพราะนายธนภาสมาตามตัวบอกแค่ว่าให้ช่วยขับรถไปรับนายนฤพลเท่านั้น ไม่คิดว่าจะลวงไปสังหาร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายประพันธ์ เพราะเชื่อว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นในการวางแผนสังหารครั้งนี้ด้วย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบที่คอกวัวภายในบริษัท เอสแอนด์แอล วู้ดเทค จำกัด ตามที่ผู้ต้องหาให้การ ก็พบกับศพนายนฤพลถูกยัดอยู่ในถัง 200 ลิตร สภาพศพขึ้นอืดจนมองใบหน้าแทบไม่ออก โดยผู้ตายสวมเสื้อลายสกอต กางเกงยีนส์ สวมถุงเท้า และรองเท้าแตะหนังสีดำตกอยู่ข้างถัง พร้อมทั้งกองเลือด และก็พบการเผาทำลายหลักฐานตามที่ผู้ต้องหาให้การทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธนภาสและนายประพันธ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่ตอนที่ขับรถไปรับนายนฤพลที่บ้านพัก จากนั้นไปทำแผนจุดที่นายธนภาสลงมือสังหาร และสุดท้ายเป็นจุดที่นำศพไปทิ้งที่คอกวัว โดยมีประชาชนไปดูขั้นตอนการทำแผนจำนวนมาก

พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ รองผบช.ภาค 2 กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือว่าการพนันฟุตบอลในพื้นที่ยังมีอยู่ และก็ถือว่าเป็นรายใหญ่ และเป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไข ก่อนที่เยาวชนจะหลงผิดไปกับอบายมุขมากกว่านี้ จึงนับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจกับการกระทำที่โหดเหี้ยม จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงผิดไปเล่นพนันบอลจนทำให้ต้องลงมือฆ่าเพื่อล้างหนี้ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่รู้ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับทั้ง 2 คน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นอำพรางศพ