เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.ท.รุ่งโรจน์ ช้างเศวก ร้อยเวรสภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ได้รับแจ้งจากพนักงานบังกะโลอิงแลนด์ ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา ใกล้สี่แยกอ่าวอุดม ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา ให้ไประงับเหตุสามี-ภรรยาทะเลาะกัน จึงไปตรวจสอบพบนายหน สมเพ็ชร อายุ 43 ปี ชาวศรีสะเกษและนางเต็ม ชลรัมย์ อายุ 48 ปี ชาวบุรีรัมย์สองสามีภรรยากำลังทะเลาะตบตีกันอย่างรุนแรงภายในห้องพัก จึงเข้าระงับเหตุแต่เมื่อตรวจสอบละเอียดพบทั้งคู่มีพฤติกรรมปลอมเป็นขอทานตาบอดเดินขอเงินตามร้านอาหารในพื้นที่แหลมฉบัง จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.แหลมฉบัง พร้อมของกลางเป็นถุงเงินใส่เหรียญจำนวนมาก
นายหน รับสารภาพอย่างหมดเปลือกว่า เป็นคนตาดี แต่เมื่อ2-3 ปีก่อน เคยรับจ้างจูงคนตาบอดเดินขอทานตามร้านอาหารในกรุงเทพฯ
เห็นว่าการเดินขอทานมีรายได้ดีแต่คนจูงได้รับส่วนแบ่งน้อยจึงคิดปลอมเป็นคนตาบอดขอทานเอง โดยไปฝึกหัดร้องเพลงคาราโอเกะจนคล่อง ก่อนปลอมเป็นคนตาบอดเดินร้องเพลงขอทานตามร้านอาหารในพื้นที่แหลมฉบัง ให้นางเต็มภรรยาทำทีเดินจูงมือถือแก้วเดินขอทาน สร้างรายได้แต่ละวันถึง 3,000 – 4,000 บาท แต่ละเดือนกว่า 120,000 บาท
เมื่อได้เงินมาก็จะกลับมานอนบังกะโลติดแอร์ แต่ตนชอบเล่นการพนันและชอบออกไปเที่ยวเตร่ทิปนักร้องตามห้องอาหาร
เมื่อเงินใกล้หมดก็จะออกมาปลอมเป็นคนตาบอดเดินร้องเพลงขอทานต่อ จนกระทั่งเกิดปัญหาเรื่องการแบ่งเงินขอทานกับภรรยาถึงขั้นทะเลาะตบตีกันขึ้น ทำให้พนักงานบังกะโลต้องแจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุความจึงแตก เบื้องต้นตำรวจได้เปรียบเทียบปรับทั้งคู่ในข้อหาทะเลาะวิวาท ก่อนปล่อยตัวไปส่วนข้อหาหลอกลวงต้องรอให้มีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความก่อนถึงจะดำเนินคดีกับทั้งคู่ได้