สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนร้ายยังคงปฏิบัติการฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์รายวัน
โดยที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 14 ม.ค. ร.ต.ต.กิตติพงษ์ ภูดวงจิตร ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่าที่บ้านตาเซะ หมู่ 3 ต.ตาเซะ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก. พ.ต.ท.จิรสิทธิ์ ลอแม รอง ผกก. (สส.) และเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 45
โจรใต้โหด ฆ่าตัดหัว หิ้วไปวางประจาน
ที่เกิดเหตุบริเวณปากทางเข้าสวนผลไม้ริมถนนสายตาเซะ-ทุ่งยอ
พบภาพสยดสยองเป็นส่วนศีรษะมนุษย์ถูกตัดขาด โดยมีกระดาษสมุดนักเรียน 3 แผ่น วางอยู่ข้างๆ แต่ละแผ่ นเขียนด้วยปากกาลูกลื่นข้อความเหมือนกันว่า พวกมึงฆ่าพวกกูที่ยุโป กูจะฆ่าพวกมึงชาวไทยพุทธให้หมดเพื่อล้างแค้น พร้อมกับลงชื่อ นักรบปัตตานี
ห่างกันประมาณ 3 เมตร พบส่วนลำตัวของศพนอนคว่ำ
ทราบต่อมาชื่อ<>bนายพิณ คชทิน อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 117/1 หมู่ 3 ต.ตาเซะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดบริเวณลำตัว 3 นัด ถัดออกไปเล็กน้อย
พบผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 ทราบชื่อ
นางเรืองรอง แก้วไกร อายุ 38 ปี ภรรยาของนายพิณ ลักษณะศพนอนคว่ำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณศีรษะ 3 นัด และลำตัวอีกหลายนัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กพษ 118 ยะลา ล้มคว่ำ
และยังพบอุปกรณ์กรีดยางพารากระจัดกระจาย นอกจากนี้ บริเวณพงหญ้าใต้ต้นทุเรียนริมถนนยังพบรอยเท้าของคนร้ายเดินเหยียบย่ำไปมา คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายดักซุ่มรอสังหาร 2 ผัวเมีย
สอบสวนได้ความว่า
นายพิณและนางเรืองรองภรรยา มีอาชีพทำสวนยางพาราและสวนผลไม้ ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันเดียวกัน นายพิณขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพานางเรืองรองนั่งซ้อนท้ายออกจากบ้านไปกรีดยางพาราที่อยู่หลังสวนผลไม้
ขณะขี่รถมาถึงที่เกิดเหตุห่างจากบ้านราว 200 เมตร ถูกคนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ที่ดักซุ่มอยู่ก่อนแล้วใช้ปืนยิงคนทั้งคู่เสียชีวิต ก่อนจะแสดงความโหดเหี้ยมใช้มีดตัดศีรษะนายพิณขาดออกจากร่างแล้วหิ้วศีรษะไปทิ้งบริเวณปากทางเข้าสวน
ทิ้งจดหมายปริศนาวไว้
พร้อมเขียนจดหมายข่มขู่ทิ้งเอาไว้ด้วย จากข้อความในจดหมายที่คนร้ายเขียนทิ้งไว้ข้างศพ เบื้องต้นตำรวจตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือ
ประเด็นแรกเป็นการฆ่าล้างแค้น
โดยทราบว่าเมื่อ วันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคนไทยมุสลิมรายหนึ่งถูกคนร้าย ลอบยิงเสียชีวิตในท้องที่ ต.ยุโป อ.เมืองยะลา อาจทำให้ญาติพี่น้องเกิดความเจ็บแค้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นฝีมือของคนไทยพุทธ จึงพาพวกดักรอล้างแค้น 2 ผัวเมียซึ่งเป็นชาวไทยพุทธ
อีกประเด็นเป็นฝีมือของกลุ่มโจรใต้
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีแนวร่วมกลุ่มอาร์เคเคประมาณ 3-4 คน เคลื่อนไหวอยู่ อาจฉวยโอกาสที่คนไทยมุสลิมถูกฆ่า จึงพาพวกวางแผนดักฆ่าคนไทยพุทธหมายจะโยนความผิดให้แก่ชาวไทยมุสลิม เพื่อให้เกิดความแตกแยกเข่นฆ่ากันเอง
อีกรายเวลาไล่เลี่ยกัน
ขณะที่นายจิตร รังษีโกศัย อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 1 ต.ลิดล อ.เมืองยะลา และมีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนันตำบลลิดล ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปดื่มน้ำชาในตอนเช้า ถึงถนนสายบ้านเนียง-ลำใหม่ หมู่ 1 ต.ลิดล
ถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายตามประกบเรียกให้จอดรถ ก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายจะชักปืน .38 ออกมาจ่อยิงนายจิตรบริเวณเบ้าตาขวา ปาก และสะเอว รวม 5 นัด เสียชีวิต แล้วชิงเอาปืน .38 ที่เหน็บอยู่ที่เอวหลบหนี
ต่อมา พ.ต.ต. สุทัศน์ หนูสีคง สารวัตรเวร สภ.ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.สราวุธ วงษ์เดิม รอง ผกก.หน.สภ.ต. ลำใหม่ นำกำลังไปตรวจสอบพบหัวกระสุน 1 หัว เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มโจรใต้ที่ต้องการฆ่าชิงปืนและต้องการสร้างสถานการณ์
ที่ จ.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำวันเดียวกัน
ขณะที่กำลังทหารชุดหน่วยเฉพาะกิจที่ 25 จำนวน 6 นาย นั่งรถกระบะออกลาดตระเวนถึงหมู่บ้านบาโงยีเป็ง หมู่ 5 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ ถูกกลุ่มโจรใต้ลอบฝังระเบิดแสวงเครื่องหนักประมาณ 15 กก. ใต้ผิวถนนแล้วจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้รถกระบะพลิกคว่ำเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่ทหารกระเด็นออกจากรถไปคนละทิศคนละทาง ทหารที่ยังมีสติใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้คนร้ายเพื่อป้องกันคนร้ายยิงถล่ม จากนั้นจึงเรียกกำลังเสริมเข้ามาช่วยเหลือ
ต่อมา พ.ต.อ.ปิยะพงศ์ ผลวานิช ผกก.สภ.อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับรายงานนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่ง รพ.กะพ้อ เสียชีวิตเวลาต่อมา 1 นาย ทราบชื่อพลฯขวัญชัย อินชนะ ถูกสะเก็ดระเบิดทั่วร่างกาย ส่วนอีก 5 นาย ส่งต่อไปที่ รพ.ปัตตานี ประกอบด้วย
ส.ท.สุรียัน แจ่มสุวรรณ และ
ส.ต.วัชรพงศ์ เสือพันธ์
พลฯประชัน ต้นไผ่
พลฯวีระยุทธ ซาอุ และ
ส.ท.ธนิพล คงจันทร์
โดย 2 คนแรกถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณร่างกายอาการสาหัส ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุลอบวางเพลิง และปลุกระดมสตรีมุสลิมประท้วงเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวนายสมาแอ เจะฮะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ที่ถูกจับกุมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
วันเดียวกัน
พ.ต.ท.วิโรจน์ บุญยรัตน์ รอง ผกก.ป. สภ.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.ท.เล็ก มียัง สวป.ร่วมกับ พ.ต.ต.อัคคภาคย์ จิตต์ประยูร สารวัตรตำรวจรถไฟหาดใหญ่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟ จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่
โดยเน้นผู้ชายและกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการลอบก่อเหตุร้ายในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ อีกทั้งเป็นการป้อมปราบกลุ่มวัยรุ่นที่คึกคะนองเข้ามาสร้างความวุ่นวายโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันจะเป็นการสร้างความวุ่นวายในตัวเมืองหาดใหญ่
และที่สำคัญเป็นการสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งในการตรวจค้นผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยขบวนรถไฟในครั้งนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ