โทรป่วนบึมรร.ราชวินิต โรคจิตเย้ยจ่อหอประชุมทบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา (4 ม.ค.) มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยสถานการณ์ความไม่สงบโทรศัพท์ข่มขู่วางระเบิดที่โรงเรียนราชวินิต แผนกประถมศึกษา ถนนราชสีมา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ใกล้กับหอประชุมกองทัพบก โรงเรียนจึงรีบแจ้งไปยังหน่วยงานทหารและตำรวจให้มาตรวจสอบ มีรายงานว่า ระหว่างการตรวจสอบหาวัตถุระเบิด โรงเรียนยังคงเปิดให้มีการเรียนการสอนตามปกติ ไม่ได้ย้ายนักเรียนออกมานอกโรงเรียน เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะเป็นการโทรศัพท์มาข่มขู่ของพวกก่อกวน ภายหลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 15 นาที ไม่พบวัตถุต้องสงสัยใดๆ ตามที่โทรศัพท์แต่อย่างใด

รายงานระบุด้วยว่า ข้อมูลจาก โทรศัพท์สายด่วน หมายเลข 191 แจ้งว่าตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา มีการโทรศัพท์ขู่วางระเบิดไปแล้ว 5 ราย แจ้งพบวัตถุต้องสงสัย 4 ราย ในพื้นที่ กทม.

ขณะที่ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดใน กทม. และจ.นนทบุรี รวม 8 จุด คืนวันที่ 31 ธ.ค. กล่าวว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตามสถานที่จัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 13 ม.ค.นี้ โดยให้ประสานการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายทหารอย่างใกล้ชิด

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไม่ได้เกิดจากจุดบอดด้านการข่าวของตำรวจสันติบาล เพราะมีการประสานด้านการข่าวกับหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ส่วนโทรศัพท์ขู่วางระเบิด และพบวัตถุต้องสงสัยในรูปแบบต่างๆ นั้น ตำรวจกำลังร่วมกับทหาร สืบหาต้นตอโทรศัพท์ขู่และวัตถุต้องสงสัยที่พบบ่อยในช่วงนี้ โดยแยกพฤติการณ์ได้ 2 ประเภท คือ ต้องการสร้างความปั่นป่วน และเป็นเรื่องสนุก ทั้ง 2 กรณี เข้าข่ายความผิด "ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยการข่มขู่" ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6 ,000บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เรียกประชุมสายข่าวในสังกัด โดยปฏิเสธที่จะตอบข้อถามว่า สันติบาลเป็นผู้รายงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อยู่เบื้องหลังการสั่งลอบวางระเบิดทั้ง 8 จุด ตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ขณะที่ พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวถึงมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดและโทรศัพท์ขู่วางระเบิดหลายจุดว่า ได้กำชับตำรวจในสังกัดทั้ง 13,000 นาย เข้มงวดการตรวจตราและตรวจตามจุดสำคัญและจุดล่อแหลมต่อการลอบวางระเบิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ รวมทั้งให้ประสานด้านการข่าวกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นความไม่ชอบมาพากล แจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบทันที โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการ และแหล่งท่องเที่ยว

ด้าน นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีมีการระบุว่าเหตุระเบิด 8 จุด เพื่อกลบข่าวฉาว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะ ประธาน คมช. และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่พวกพ้อง และไม่เคยทำให้ประเทศเสียหาย เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง ไม่ได้มาทำอะไรเสียหาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อกรณี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ตำหนิการทำงานของรัฐบาลที่ด่วนสรุปเหตุระเบิด และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของหน่วยความมั่นคงไม่มีประสิทธิภาพ ว่า เป็นเรื่องที่ พล.อ.ชวลิต ควรจะทบทวนตัวเอง คนอื่นคิดแทนไม่ได้ว่าการออกมาเคลื่อนไหวลักษณะนี้จะทำให้เหตุการณ์บานปลายหรือไม่ ไม่มีความเห็น เหตุการณ์จะบานปลายเกิดความแตกแยกหรือไม่ เป็นสิ่งที่ตัวท่านจะต้องไปคิดเอาเอง คนอื่นคงคิดแทนไม่ได้ นอกจากนี้ เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศควรเร่งชี้แจงต่อต่างประเทศถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และไม่ให้มีผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมา