รวบแก๊งเครดิตเก๊ สงสัยพันทมิฬอีแลม

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 ม.ค. พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.ต.เสริม ขวัญนิมิตร สว.สส.สภ.อ.กะทู้ นำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลขอี 07 เพ็ญวิลล่า หาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังสืบทราบว่ามีชาวต่างชาติลักลอบนำบัตรเครดิตปลอมมาซุกซ่อนไว้ กระทั่งพบนายวีรัสต์งาม ศรีกันต์ธาน อายุ 30 ปี ชาวศรีลังกา จึงคุมตัวไว้ได้ ค้นในห้องพบกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ ภายในมีกล่องกระดาษแข็งบรรจุแผ่นพลาสติกสีขาวขนาดเท่าบัตรเครดิต ด้านหลังมีแถบแม่เหล็ก ส่วนด้านหน้ามีตัวเลขเขียนด้วยปากกา 4 หลักกำกับไว้จำนวน 4,150 ใบ บัตรแบบสีเขียวจำนวน 483 ใบ และแบบสีขาวไม่มีตัวเลขกำกับอีก 523 ใบ รวมทั้งสิ้น 5,156 ใบ เครื่องแท็ปข้อมูล 1 อัน พร้อมอุปกรณ์และพาสปอร์ต 1 เล่ม

สำหรับเบื้องหลังการจับกุม สืบเนื่องจากช่วงค่ำที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ สภ.อ.กะทู้ ได้รับประสานจากศูนย์วิทยุ สภ.ต.ฉลอง ให้สกัดจับชาวต่างชาติ 2 คน ที่ใช้บัตรเครดิตปลอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารนครหลวงไทย สาขากะรน อ.เมืองภูเก็ต คนร้ายใช้รถฮอนด้า แจ๊ส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 6143 ภูเก็ต เป็นพาหนะ กระทั่งพบรถต้องสงสัยขับผ่านสามแยกกะหลิม ถนนพระบารมี ต.ป่าตอง จึงสกัดจับไว้ได้ ทราบชื่อคนร้ายคือนายกานานากันต์ธาน สิวะกานานาม อายุ 36 ปี และนายกาเนตชามัวธี ปัทธมาธัส อายุ 27 ปี ชาวศรีลังกา ในรถพบบัตรพลาสติกคล้ายบัตรเครดิตอยู่ในกระเป๋าเดินทาง 4 ใบ รวม 1,890 ใบ โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์แอร์การ์ด สลิปโอนเงินจากกรุงเทพฯไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และจากภูเก็ตไปกรุงลอนดอนเป็นจำนวนมาก สมุดเช็คเหลือแต่ต้นขั้วสั่งจ่าย 2 เล่ม พาสปอร์ต 2 เล่ม สลิปกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มต่างๆในกรุงเทพฯและภูเก็ตอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนสอบขยายผลทราบว่ามีการเก็บของกลางไว้ที่ห้องพักดังกล่าวและนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งไว้ได้

สอบสวนนายกานานากันต์ธานเบื้องต้นให้การว่า เป็นชาวทมิฬ ประเทศศรีลังกา และปฏิเสธไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับบัตรเครดิตปลอม เดินทางมาในฐานะนักท่องเที่ยว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อตามคำให้การ เนื่องจากมีหลักฐานแน่นหนา จากการตรวจสอบประวัติพบว่าทั้งหมดเป็นแก๊งปลอมแปลงบัตรเครดิตรายใหญ่ โดยนายกานานากันต์ธาน เป็นโปรแกรมเมอร์เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ส่วนโน้ตบุ๊กที่ยึดได้ก็มีการล็อกรหัส และมีแอร์การ์ดเชื่อมโยงข้อมูลอินเตอร์เน็ต มีการโจรกรรมข้อมูลรหัสบัตรเครดิตธนาคารต่างๆทั่วโลกเพื่อนำมาบันทึกในบัตรเครดิตปลอม โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้เดินทางมาถึงภูเก็ตเมื่อตอนบ่ายวันที่ 2 ม.ค. จากนั้นไปเช่ารถตระเวนนำบัตรเครดิตปลอมไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มแล้วโอนกลับไปกรุงลอนดอนทันที ล่าสุดกล้องวงจรปิดหน้าตู้เอทีเอ็ม พบว่ายังมีคนร้ายอีก 1 คน และหนีรอดไปได้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้แจ้งข้อหา 1. ปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด 2. ทำเครื่องมือหรือทำวัตถุสำหรับปลอมข้อมูลในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ และ 3. ใช้หรือมีไว้ใช้เพื่อบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม

ด้าน พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.อ.กะทู้ เปิดเผยว่า การจับกุมบัตรเครดิตปลอมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดที่ตำรวจไทยเคยจับกุมได้ แต่ถ้าจับไม่ได้ความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากบัตรปลอมทั้งหมดคงไม่สามารถประเมินยอดเงินได้ ข้อมูลที่คนร้ายโจรกรรมมาจากบัตรเครดิตทั่วโลกมีวงเงินสูง การกดเงินของคนร้ายก็จะสูงไปด้วย ขบวนการปลอมบัตรเครดิตดังกล่าวมีการวางระบบเป็นอย่างดี แต่ละคนมีหน้าที่แตกต่างกัน คนหนึ่งโจรกรรมข้อมูล คนหนึ่งเป็นคนกดเงิน อีกคนเป็นคนดูแลบัตรปลอมอยู่ที่ห้องเช่า บัตรปลอมแต่ละใบมีการเขียนตัวเลขพร้อมระบุว่าใช้ได้หรือไม่ได้ มีเงินหรือไม่มีเงิน และแยกบัตรที่ยังไม่ได้ใช้ไว้ชัดเจน ส่วนเรื่องของความมั่นคง ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานส่งให้ตำรวจสากลและสถานทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบประวัติแต่ละคนว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬอีแลมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานการโอนเงินจากกรุงเทพฯและภูเก็ตไปยังกรุงลอนดอน เชื่อว่าฐานปฏิบัติการอาจมีความเชื่อมโยงอยู่ที่กรุงลอนดอน