ฝนถล่มหนัก!! ดินสไลด์ตึกถล่มฝังกลบแม่-ลูกเสียชีวิต

ตึก3ชั้นหลัง รพ.เกษมราษฎร์สระบุรี ถล่มลงมาไม่เหลือซาก คาดพายุพัดถล่มอย่างหนักหลายวันติดต่อกัน เป็นเหตุให้สภาพพื้นดินทรุดตัวจนเกิดเหตุสลด ล่าสุดพบศพ2รายเป็น“แม่-ลูก”ติดอยู่ในซาก 

วันที่ 12 ก.ย. เวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.สระบุรี รับแจ้งเกิดเหตุอาคารถล่มบริเวณเชิงเขาตะกร้า ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลเกษมราษฏร์สาขาสระบุรี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมรุดไปที่เกิดเหตุ พบอาคารเลขที่ 88 หมู่ 3 ตำบลปากข้าวสาร อ.เมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นตึกแถว 10 คูหา มี 3 ชั้น อยู่ในสภาพทรุดตัวถล่มลงมาโดยชั้น 3 ลงมากองอยู่บนพื้นดิน ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากใต้ซากปรักหักพัง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มนี้แล้ว 2 ราย เป็นผู้หญิงวัยกลางคนและเด็กหญิงคนหนึ่ง คาดว่าเป็นแม่-ลูกกัน ส่วนคนเป็นพ่อยังมีลมหายใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งช่วยชีวิตเป็นการด่วน รวมทั้งค้นหาเหยื่อรายอื่น ๆ ที่ยังอยู่ใต้ซากอาคารดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวเป็นตึกแถว 10 คูหา ขนาด 3 ชั้น โดยชั้น 2-3 เปิดให้เช่าเป็นห้องพักรายเดือน
 
ส่วนชั้นล่างตีกำแพงทะลุถึงกันหมดเพื่อใช้เป็นที่จอดรถของผู้มาเช่าพัก สันนิษฐานว่าตั้งแต่คืนวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 12 ก.ย. อาจทำให้ดินในบริเวณดังกล่าวเกิดการยุบตัวทำให้อาคารถล่มลงมา และขณะเกิดเหตุมีผู้มาเช่าห้องพักหลายห้องแต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด

ด้านนายถาวร พรหมมีชัย ผวจ.สระบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีผู้ติดอยู่ใต้ซาก 5 ราย เสียชีวิต 4 ศพ ส่วนอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยนำออกมาได้ ส่งโรงพยาบาลแล้ว สำหรับสาเหตุ คาดว่า น่าจะเป็นผลพวงมาจากฝนตกต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดดินสไลด์ตัว ส่งผลให้โครงสร้างด้านล่างพังยุบดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนายสิทธิชัย ประเสสังข์ อายุ 28 ปี ซึ่งพักอยู่ที่ห้องหมายเลข 10

หลังถูกคานทับมือขวาส่งโรงพยาบาล ส่วนนางสาววิลานิตย์ จันดา เจ้าหน้าที่เทศบาลกุดนกเป้า ภรรยาที่พักอยู่ในห้องเดียวกัน เสียชีวิต พร้อมบุตรชาย (ยังไม่ทราบชื่อ) ทั้งนี้มีพยานระบุว่า ทั้งสองแม่-ลูกกอดกันเสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างใช้เครื่องมือขุดเจาะเพื่อนำศพออกมา

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ  รมช.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมแพทย์ฉุกเฉินจากรพ. 3 แห่ง
 
ได้แก่ รพ.สระบุรี รพ.แก่งคอย และรพ.หนองแค ซึ่งมีแพทย์เชี่ยวชาญและเครื่องมือแพทย์ครบครันไปช่วยชีวิตผู้ที่ติดในซากอาคารดังกล่าว โดยกระทรวงฯมีความพร้อมทั้งเรื่องทีมแพทย์ฉุกเฉิน มีสายด่วน 1669 ให้บริการได้รวดเร็ว 24 ชั่วโมง และมีความรู้เรื่องการดูแล การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ  เนื่องจากบางรายอาจบาดเจ็บที่หลังหรือคอ ต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ช่วยเหลืออย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย  ทั้งนี้เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ติดในซากตึก5 ราย ในจำนวนนี้คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว 2 ราย ที่เหลือยังไม่ทราบว่าปลอดภัยหรือไม่ นอกจากนี้ได้สั่งการรพ.ศูนย์สระบุรี เตรียมพร้อมรับผู้บาดเจ็บโดยเตรียมห้องฉุกเฉินห้องผ่าตัด คลังเลือด ไอซียู และจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านศัลยกรรม กระดูก และประสาทให้พร้อม เพื่อให้การดูแลเต็มที่.