อารีย์ ย้ำอย่านำเหตุระเบิดกทม.-เชื่อมโยงเหตุร้ายชายแดนใต้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2550 12:45 น.

มท.1 เชื่อเหตุระเบิดป่วน กทม.ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ เรียกประชุมอธิบดีและผู้ว่าฯผ่านทางไกล ย้ำให้ระมัดระวังพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สำคัญ ยอมรับมีการแจ้งเตือนเหตุล่วงหน้าแล้ว ติงอย่านำเหตุระเบิดไปเชื่อมโยงกับเหตุภาคใต้เกรงจะก่อให้แตกแยกเพิ่มขึ้น

วันนี้ (1 ม.ค.) นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ คืนวานนี้( 31 ธ.ค.) ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนคงให้ความเห็นมากไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการของฝ่ายความมั่นคง ส่วนการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเชื่อมโยงกับสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เชื่อว่าคงจะคิดกันไปเอง เพราะการพูดว่ามีการเชื่อมโยงกันหรือไม่จะต้องให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้พิสูจน์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งรูปแบบของวัตถุระเบิดและลักษณะของการใช้งานมีส่วนสัมพันธ์กันหรือไม่ หากเราไปบอกว่าสัมพันธ์กันหรือไม่สัมพันธ์กัน คิดว่าเป็นสิ่งที่ยืนยันไม่ได้และตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะบอกเรื่องนี้

เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้พิสูจน์ โดยจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนตามหลักนิติวิทยาศาสตร์เราคงบอกอะไรไม่ได้ สำหรับมาตรการของกระทรวงมหาดไทยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกประชุมอธิบดีที่เกี่ยวข้อง และทำการชี้แจงผ่านระบบประชุมทางไกลให้ทุกจังหวัดมีความระมัดระวังในพื้นที่ชุมชน ตรวจสอบและตื่นตัวในทุกพื้นที่ รวมทั้งแนะนำให้ทุกจังหวัดเพิ่มความระมัดระวังในสถานที่สำคัญและสถานที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ในพื้นที่

นายอารีย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบและบอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ หากเกี่ยวพันถึงใคร คงต้องเรียกไป ส่วนที่จะนำไปเชื่อมโยงกับการปฏิวัติซ้อนนั้น ตนไม่ขอให้ความเห็น แต่คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน

ผมคิดว่าเขาเห็นแก่ประโยชน์ตัวมากเกินไป การที่จะทำอย่างนี้ให้เกิดความปั่นป่วนกับพี่น้องประชาชนซึ่งอยู่ในวันขึ้นปีใหม่ ที่ทุกคนต้องการหาความสุข แต่มาทำในลักษณะอย่างนี้เป็นการสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน

คงต้องไปคิดเอาดูว่า คนที่ทำเป็นใคร แต่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีงามอย่างมากเลย แล้วถ้าคนที่คิดอยู่อย่างนี้ต่อไป คงต้องมีมาตรการเข้มแข็ง ผมว่าต้องกำจัด เพราะเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน นายอารีย์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรารู้มาพอสมควร และแจ้งเตือนล่วงหน้าพอสมควร วันอย่างนี้เราบอกไว้หมดว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร แม้จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ไม่ได้ประมาท อย่างไรก็ดีการนำเรื่องนี้ไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทางภาคใต้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมานอกจากจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ ยังเป็นวันสำคัญทางศาสนาของศาสนาอิสลาม (วันอีดิ้ล อัฎฮา) ซึ่งพี่น้องชาวมุสลิมไปทำละหมาดและมีความสุขหลังจากนั้น การเชื่อมโยงในลักษณะนี้ผู้ที่คิดหรืออ้างเหตุเชื่อมโยงต้องคิดให้ดีว่าจะใช่หรือไม่ใช่.