จำคุก 34 ปี ออสซี่จอมโหด ใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเมียแก่ดับ

ศาลจำคุกตลอดชีวิต นักธุรกิจออสซี่จอมโหดคว้าค้อนปอนด์ทุบหัวเมียแก่ ฐานรำคาญขี้บ่น แถมเจ็บออดๆ แอดๆ คำให้การยังเป็นประโยชน์ ศาลปรานีลดโทษเหลือ 34 ปี 1 เดือน ไร้ญาติยื่นประกันเจ้าตัวคอตกเข้าคุก

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ สนามหลวง ศาลมีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสจวร์ต คิว.แม็กลาวด์ อายุ 44 ปี อาชีพนักธุรกิจชาวออสเตรเลียนเป็นจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดและซ่อนเร้นทำลายศพ โดยจำเลยให้การปฏิเสธ ตาม ป.อ.289, 199

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทย กับ นางบาบาร่า ลินน์ แม็ค ลาวด์ อายุ 61 ปี ภรรยา และเช่าบ้านอยู่เลขที่ 84 ซอยสุขุมวิท 20 เขตทองหล่อ กทม.และเนื่องจาก นางบาบาร่า มักบ่นถึงอาการเจ็บป่วย เนื่องจากสูงอายุ ซึ่งสร้างความรำคาญให้จำเลยกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2548 เวลา 23.00 น.ขณะที่ นางบาบาร่า กำลังนอนหลับ จำเลยได้ใช้ค้อนปอนด์กระหน่ำตีที่ศีรษะ ลำตัว และแขนขาอย่างแรงจนเสียชีวิต จากนั้นจึงได้นำศพยัดใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่และนำไปทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะกลางซอยสุขุมวิท 20

โดยชั้นสืบพยานโจทก์ มี ร.ต.ท.สุเมธ เนื่องขรรค์ตรี ร้อยเวร สน.ทองหล่อ เบิกความว่า ในคืนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่า พบกระเป๋าต้องสงสัยขนาดใหญ่ถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณจุดทิ้งขยะกลางซอยสุขุมวิท 20 จึงเดินทางไปตรวจสอบ จนพบศพผู้ตาย จึงทำการสอบสวนพยานที่อยู่ใกล้เคียงจนทราบแน่ชัดว่า ผู้ตาย คือ ภรรยาของจำเลย ซึ่งพักอยู่ด้วยกันห่างจากจุดทิ้งศพเพียง 200 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตามจับกุมตัวจำเลยมาสอบสวน โดยเบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธว่าวันเกิดเหตุไปเที่ยวอาบอบนวด จึงไม่ทราบว่า ภรรยาถูกฆ่าตาย นอกจากนี้ พล.ต.ต. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.พยานโจทก์อีกปาก เบิกความว่า ขณะสอบสวนจำเลยแสดงอาการพิรุธ โดยให้การวกวน ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์ได้โดยให้การปฏิเสธ ไม่รับรู้ถึงสาเหตุการตายของภรรยาตัวเองทั้งที่เป็นสามีภรรยาและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน

ศาลพิพากษาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พยานโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงไม่น่าสงสัยว่าจะเบิกความปรับปรำจำเลยอีกทั้ง คำเบิกความของพยานโจทก์หลายปากยังสอดคล้องกับพยานวัตถุ และผลการตรวจพิสูจน์นิติวิทยาศาสตร์ ส่วนที่จำเลยนำสืบต่อสู้ว่าไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีพยานอื่นมานำสืบสนับสนุน เพื่อหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงเชื่อว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้องพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงสมควรลดโทษให้ คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 34 ปี 1 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีญาติของจำเลยจะยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป