อ้างเป็นตำรวจ...ขว้างไฟฉายใส่โชเฟอร์


ม็อบแท็กซี่ร่วมร้อยปิดล้อมถนนหลังโรงแรมสยามหาผู้รับผิดชอบ หลังชายอ้างตัวเป็นตำรวจตามจับหญิงขายบริการที่หนีขึ้นแท็กซี่ ขว้างกระบอกไฟฉายใส่จนทะลุกระจกโดนคนขับเจ็บ ด้านสารวัตรออกโรงป้องไม่ใช่ลูกน้อง เป็นแก๊งวัยรุ่น

วันนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. พ.ต.ท.อิสระ ณ พัทลุง สารวัตรเวร สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุรถแท็กซี่จำนวนกว่า 100 คัน จอดปิดล้อมบริเวณถนนกำแพงเพชร 7 ด้านหลังโรงแรมสยาม แขวงและเขตมักกะสัน กทม. ทำให้ไม่สามารถจราจรผ่านบริเวณนั้นได้

โดยสาเหตุเนื่องมาจาก

มีชายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจใช้กระบอกไฟฉายปากระจกรถแท็กซี่จนแตกและทำให้คนขับรถแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ คนขับรถแท็กซี่จึงใช้วิทยุสื่อสารนัดมารวมตัวเพื่อขอความเป็นธรรม จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ



ในที่เกิดเหตุพบคนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อ คือ นายสมพงษ์ แก้วกาหลง อายุ 33 ปี เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ ขับรถแท็กซี่สีขาวคาดแดง ทะเบียน 4005 กทม ของสหกรณ์แท็กซี่เพชรเกษม ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำเป็นแผลบริเวณแขนซ้าย ส่วนสภาพรถแท็กซี่พบว่ากระจกรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารแตกละเอียด บนเบาะรถยังพบกระบอกไฟฉายสีดำยาวประมาณ 15 ซม. ตกอยู่กับเศษกระจกรถ

จากการสอบถามนายสมพงษ์ ทราบว่า

ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาส่งผู้โดยสารบริเวณดังกล่าว จากนั้นได้มีผู้หญิงเปิดประตูรถขึ้นมาทางเบาะด้านหลัง แล้วว่าจ้างให้ไปส่งแถวรังสิต ขณะกำลังออกรถ มีชายฉกรรจ์สูงประมาณ 160 ซม. สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ วิ่งมาที่รถแล้วบอกให้หยุดรถ แต่หญิงสาวกลับบอกให้รีบขับรถออกไป ขณะที่กำลังขับรถออกไปชายดังกล่าวได้ ปากระบอกไฟฉายมาที่รถจนกระจกแตกและได้รับบาดเจ็บ

จากนั้นชายดังกล่าวก็วิ่งไปขึ้นรถกระบะโตโยต้าสีขาว ทะเบียน ปง-1679 กทม ซึ่งมีคนบนรถประมาณ 4-5 คนขับหนีออกไป จึงได้ใช้วิทยุสื่อสารเรียกเพื่อนร่วมอาชีพมาจอดประท้วงเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบ


จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์


มีผู้ระบุว่าชายที่ก่อเหตุเป็นตำรวจ ชื่อ จ.ส.ต.ชัยณรงค์ หรือรู้จักกันในชื่อ จ่ารงค์ โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะมากับเพื่อนประมาณ 4-5 คน เพื่อตรวจจับหญิงขายบริการบริเวณหลังโรงแรมสยาม

แต่มีหญิงขายบริการคนหนึ่งได้พยายามหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่ของนายสมพงษ์ จึงวิ่งตามมาจับ แต่นายสมพงษ์ขับรถหนีจึงบันดาลโทสะขว้างกระบอกไฟฉายไปที่รถของนายสมพงษ์ เมื่อเห็นว่ารถแท็กซี่ได้รับความเสียหายและคนขับได้รับบาดเจ็บจึงวิ่งไปขึ้นรถกระบะแล้วขับหนีออกไป


หลังจากที่แท็กซี่กว่า 100 คันได้ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวนานประมาณครึ่งชั่วโมง


พ.ต.ท.อิสระ ได้เดินทางมาถึงยังที่เกิดเหตุและเข้าเจรจากับนายสมพงษ์ โดยใช้เวลาในการเจรจาไม่นาน จนนายสมพงษ์พอใจและยอมให้เพื่อนๆ นำรถแท็กซี่ออกจากบริเวณนั้น จากนั้นได้พานายสมพงษ์ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.ท.อิสระ กล่าวว่า ก่อนเข้าทำการเจรจาได้รับการติดต่อจากเพื่อน หรือญาติของผู้ที่ก่อเหตุซึ่งไม่ได้ระบุชื่อ ให้นำเงินจำนวน 2,000 บาท มาให้กับผู้เสียหายเพื่อให้ยุติปัญหา และก็นำผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนกรณีที่มีผู้ระบุว่าชายที่ก่อเหตุเป็นตำรวจนั้นคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องจริง เพราะตำรวจไปตรวจจับหญิงค้าบริการบริเวณนั้นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ผู้ที่ก่อเหตุจึงน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อ้างตัวเป็นตำรวจมากกว่า แต่คดีดังกล่าวก็ถือว่าไม่มีอะไรเนื่องจากผู้เสียหายตกลงกันได้ก็คงจบเพียงเท่านี้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์