แฉคลิปพี่เลี้ยงสาว ตีเข่าทารกโหดในเนอสเซอรี่

อีก 1 อดีตคลิปโหด ที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

โมโหเด็กร้องไห้จิกหัว-จับเหวี่ยงพ่อแม่โร่แจ้งจับพม.จี้สอบ-สั่งปิด

แจ้งจับพี่เลี้ยงเนิร์สเซอรี่สุดโหดทารุณเด็กวัยขวบเศษ ทั้งจิกหัวทั้งตีเข่า จับเด็กเหวี่ยงไปมาจนเสียวไส้ ผู้ปกครองไปเจอเข้าพอดีเลยแอบถ่ายเป็นคลิปไว้เป็นหลักฐาน เริ่มจากหนูน้อยนั่งร้องไห้อยู่กลางห้อง พี่เลี้ยงสาวก็ปรี่เข้าจิกหัวดึงผม ก่อนอุ้มเหวี่ยงร่างทารกน้อยไปมา แล้วตีเข่าเข้ากลางหลัง พ่อแม่สุดทนโร่แจ้งความจับ แต่พี่เลี้ยงชิงลาออกไปก่อน ตร.เร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี พม.เต้นผางสั่งสอบด่วนเป็นเนิร์สเซอรี่เถื่อนหรือไม่ หากผิดกฎหมายก็จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตทันที

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. นายอำนาจ รักไทย อายุ 29 ปี พร้อมด้วยนางนิตยา รักไทย อายุ 27 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 3/9 ถนนคำแสน ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ พนักงานของร้านเอ็มทีเซ็นเตอร์ หน้าวัดหัวข่วง เขตเทศบาลเมืองแพร่ เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.บุญเสริม สุริยา สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองแพร่ พร้อมกับนำภาพนิ่งคลิปวิดีโอด.ญ.อารยา หรือน้องการ์ตูน รักไทย ลูกสาวอายุ 1 ขวบ 4 เดือน ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายมามอบให้ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินการกับพี่เลี้ยงรายนี้

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากนางแหม่ม (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งรู้จักกับตนว่าเกิดความสงสารน้องการ์ตูน ลูกสาวของตนที่เป็นเหยื่อของความโหดร้ายของครูพี่เลี้ยงที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก"ลูกรัก" ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ เพราะพี่เลี้ยงทารุณกรรมเด็กหลายคน และมีนายเอ็ม ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่งในศูนย์แอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนที่เด็กๆ โดนทารุณไว้ได้ จากนั้นตนจึงติดต่อขอดูคลิปดังกล่าวจากนายเอ็มทันที

พอสอบถามนายเอ็มก็ทราบว่า คลิปนี้ถ่ายไว้เมื่อ 2 เดือนก่อน ตอนที่นายเอ็มแวะไปรับลูกแล้วเจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดีจึงถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐาน ฉันเห็นเข้าสงสารลูกมาก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนางอัมพิกา" นางนิตยากล่าวและว่า พฤติกรรมของนางอัมพิกาโหดร้ายมาก ทั้งที่ นางอัมพิกาเป็นคนชักชวนตนให้นำน้องการ์ตูนไปฝากเลี้ยงไว้ที่ศูนย์เด็กเล็กดังกล่าว เพราะนางอัมพิกาเองก็มีลูกสาวอยู่ในวัยเดียวกัน และมีสามีทำงานเป็นข้าราชการที่มีชื่อเสียงในจ.แพร่

หลังจากรับแจ้งความร้องทุกข์แล้ว พ.ต.ท.บุญเสริม สุริยา สารวัตรเวรสภ.อ.เมืองแพร่ ได้ประสานไปยังศูนย์เลี้ยงเด็กดังกล่าวทันที แต่ได้รับแจ้งจากนางหยกเจ้าของศูนย์เด็กเล็กดังกล่าวว่านางอัมพิกาได้ลาออกจากศูนย์ไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนางอัมพิกา

กล่าวถึงกรณีนี้ว่า กระทรวงจะเข้าไปตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวอย่างละเอียดว่าจดทะเบียนกับกระทรวงถูกต้องหรือไม่ภายในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ โดยตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.แพร่ เข้าตรวจสอบสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ หากพบว่าจดทะเบียนกับกระทรวงแล้ว จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาต แต่หากไม่ได้จดทะเบียนก็ถือว่าเป็นเนิร์สเซอรี่เถื่อน ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายเช่นกัน โดยจะถูกยกเลิกกิจการทันที

ทั้งนี้ การสั่งปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก กระทรวงจะคำนึงถึงเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กทั้งหมด โดยจะให้ย้ายเด็กไปอยู่ที่อื่นก่อน รวมทั้งพี่เลี้ยงด้วย ส่วนทางคดีความทราบว่าแม่ของเด็กได้เข้าแจ้งความ เพื่อตามหาพี่เลี้ยงเด็กที่ก่อเหตุแล้ว" ปลัดพม.กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด