เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 612 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.3143/2551
ที่บริษัท ซีเคเอ เชียงใหม่ จำกัด โดยนายเสถียร วัฒนาวีรวงศ์ กรรมการผู้มีอำนาจ นายมาร์ค เชน โทมัส และน.ส.มณิน ทร คำวงษ์ เป็นโจทก์ที่ 1-4 ยื่นฟ้องบริษัททรัยคาสท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และนายนรศักดิ์ รัตนเวโรจน์ อายุ 44 ปี หรือ จอห์น นูโว นักร้องนำวงนูโว กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานฟ้องเท็จ สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 51 จำเลยร่วมกันเอาความเท็จฟ้องโจทก์ต่อศาล ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์และซ่องโจร กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 3-19 ก.ย. 50 โจทก์กระทำการข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมหรือยอมจะให้ผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน หรือโดยขู่เข็ญจะทำอันตรายต่อชื่อเสียงทรัพย์สินจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอม ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. 52 ศาลยกฟ้อง โจทก์เห็นว่าจำเลยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา จึงฟ้องคดีขอให้ศาลลงโทษ ภายหลังโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ทั้งนี้โจทก์เบิกความว่า ไม่ได้บังคับข่มขู่จำเลยที่ 2 จ่ายเช็ค 2.2 ล้านบาท จึงไม่เป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์และซ่องโจรถือเป็นการฟ้องเท็จ ส่วนจำเลยที่ 2 นำสืบว่า โจทก์ที่ 1 ร่วมลงทุนกับจำเลยที่ 2 โดยโจทก์ที่ 4 เป็นกรรมการของโจทก์ที่ 1 ได้ลงนามร่วมกับตนสั่งจ่ายเช็คในนามบริษัทคืนเงินกู้ยืมให้ 1.1 ล้านบาท แต่หลังจากลงนามแล้ว โจทก์ที่ 4 เอาเช็คไป ขณะโจทก์ที่ 3 ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงิน ส่งอีเมลมาต่อรองให้สั่งจ่ายเช็ค 2.2 ล้านบาทแก่โจทก์ที่ 1 แล้วจะคืนเช็ค 1.1 ล้านบาทให้ แม้ไม่เห็นด้วย แต่ต้องจำยอมเพราะถูกบังคับและกรรโชกทรัพย์ จึงไม่ใช่ฟ้องเท็จ
ศาลเห็นว่าจำเลยที่ 2 ไม่เห็นด้วยกับการจ่ายเงิน 2.2 ล้านบาท รวมทั้งยังส่งอีเมล โต้ตอบโจทก์และทวงเงินคืน ตั้งแต่แรก
รวมทั้งได้บรรยายฟ้องข้อเท็จจริงตามเหตุที่เข้าใจ มิได้บิดเบือนเรื่องราวให้เป็นเท็จ จึงขาดเจตนากระทำความผิดฐานฟ้องเท็จ จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง ทั้งนี้หลังศาลยกฟ้อง จอห์น นูโว มีหนังสือเปิดผนึกถึงสื่อมวลชน ระบุว่า เป็นบทพิสูจน์ความจริงว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ และยกโทษให้สื่อบางรายที่เคยลงข่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แม้ไม่ได้ช่วยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่คงทำให้ทุกคนตระหนักว่าควรมีวิจารณญาณในการเสพข่าว รวมถึงฟังความให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ.