ตำรวจไล่จับโจรวัยรุ่นกระชากสร้อยคอทองคำสาวไทยเมียฝรั่ง ซิ่งรถ จยย. หลบหนี แต่ไปไม่รอด โยนของกลางทิ้งพุ่มไม้เกาะกลางถนน
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (4 ก.ค.) พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ประชาชน โดยเหตุเกิดที่บริเวณภายในซอย 17 ถนนเทพประสิทธิ์ ย่านพัทยาใต้ หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และจราจร ทุกเขต ทุกนาย กระจายกำลัง สกัดจับตามจุดที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นในการหลบหนี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และตำรวจอาสาชุมชนพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม พร้อมรายงานทางวิทยุสื่อสารให้ทราบตลอด ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนีการจับกุม
โดยคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปีไอ หมายเลขทะเบียน จคร 600 ชลบุรี สีฟ้าขาว ซึ่งหลังก่อเหตุ ขับขี่ มุ่งหน้าไปถนนเลี้ยวขวาออกถนนพัทยาสายสาม เลี้ยวขวา ซอยกอไผ่ ออกถนนพัทยาใต้ เลี้ยวซ้ายเข้าสุขถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าปากทางพัทยากลาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัทยากลาง เลี้ยวขวาเข้าซอยยูเมะ ก่อนจะเลี้ยวขวาออกถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าปากทางพัทยาเหนือ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัทยาเหนือ ก่อนจะยูเทริน ออกกลับมุ่งหน้าถนนพัทยากลางจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ตัวไว้ได้ ก่อนถึงปากทางพัทยาเหนือ
ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายจรัญ หรือกอล์ฟ โพธิ์ทอง อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/3 ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และนายรุ่งโรจน์ เกตุรัตน์ อายุ 17 ปี โดยผู้ต้องหาให้การว่าต้องการช่วยหาเงินช่วยจรัญ นำเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์ แต่พ่อของนายจรัญ หรือกอล์ฟ ซึ่งอ้างว่าพ่อเป็นตำรวจ ไม่ยอมให้เงิน จึงมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ผู้อื่นกระทั่งถูกจับกุม นอกจากนี้ นายจรัญ หรือกอล์ฟ ยังให้การอีกว่า หลังจากที่ก่อเหตุกระชากสร้อย ได้หลบหนีการจับกุมและคิดว่าน่าจะไปไม่รอดจึงได้โยนสร้อยคอทองคำที่ก่อเหตุ มาได้ทิ้งบริเวณพุ่มไม้เกาะกลางถนน ก่อนถึงปากทางพัทยา กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้
ขณะที่ ผู้เสียหาย คือนางวรกลม พรมบุตร อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าขณะที่กำลังนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับสามี คือนายวิลลี่ แดนบ็อค อายุ 54 ปี สัญชาติเดนมาร์ก เพื่อติดต่อเช่ารถแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากกำลังมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม
ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้มีคนร้าย คือนายจรัญ หรือกอล์ฟ ซึ่งเป็นคนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานต์ได้มาก่อเหตุกระชากสร้อยทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ขาดหลุดติดมือไป ตนจึงได้โทรศัพท์มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือกระทั่งเวลาผ่านไป ประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็โทรแจ้งว่าสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังหาของกลางไม่พบ จึงได้เดินทางมาดูตัวก็พบว่าเป็นคนร้ายทั้งสองคน ที่ได้ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำตนจริง