ออกหมายจับทีมฆ่า 'นายกเจี๊ยบ' ทั้งมือปืนคนชี้เป้าและดูต้นทาง “บิ๊กอ๊อด”
แถลงเองบอกทุกอย่างทำไปตามพยานหลักฐาน ปัดโดนชี้นำ แจงประมวลภาพจากกล้องวงจรปิด 163 ตัว เห็นจะจะ มือสังหารหน้าคล้าย “ต๋อง วังน้ำเขียว” ชุดซัลโว “ประชา” แฉหลังลงมือโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ ก่อนเปลี่ยนเรียกแท็กซี่ หวังลวงให้หลงทาง ขู่ใครเกี่ยวรีบมอบตัว ระวังเงาหัวจะหาย ฟุ้งหากจับได้ขยายถึงคนบงการแน่
กรณีมือปืนลอบสังหารนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี หัวคะแนนคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทยเสียชีวิต กลางตรอกมะยม
หลังลานจอดรถสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ตำรวจต้องระดมทีมสืบสวนออกแกะรอย กระทั่งทราบว่ากลุ่มมือปืนมีความเกี่ยวโยงกับคดีลอบยิงนายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส. เขต 7 สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จนสามารถออกหมายจับนายสิระพงศ์ อาจเดช หรือ “ต๋อง วังน้ำเขียว” และยังเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องอีก 3 คน ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. และพ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายประกบยิงนายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางชุดสืบสวนของ บก.สส.บช.น. ภูธรภาค 1 บช.ก. กองปราบปราม และกองพิสูจน์หลักฐาน
ได้ร่วมกันลงพื้นที่เก็บร่องรอยพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นต่อศาลอาญา ออกอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายวันชัย หรือกอล์ฟ โพธิปิติ ที่มีหน้าที่คอยชี้เป้า และส่งสัญญาณให้มือปืนลงมือก่อเหตุ โดยตามแนวทางการสืบสวนทราบว่าในวันเกิดเหตุนายวันชัย ได้มานั่งดื่มเบียร์ในร้านใกล้ที่เกิดเหตุล่วงหน้าก่อนถึง 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนรายที่สองเป็นการออกหมายจับตามภาพวงจรปิด ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “เอก”
มีหน้าที่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มนายสุบรรณ รูปพรรณสัณฐานเป็นชายผิวขาว อายุ 25-30 ปี ในวันเกิดเหตุสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขน กางเกงยีน และรองเท้าแตะ ซึ่งนั่งดื่มเบียร์อยู่กับนายวันชัย ส่วนรายที่สามเป็นการออกหมายตามภาพวงจรปิด ซึ่งเป็นมือปืน ลักษณะเป็นชายวัยกลางคน สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบสีขาว ในภาพพบว่ากำลังเดินขึ้นแท็กซี่ สีส้ม บริเวณแยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า จากการประมวลพฤติกรรมของมือปืน คาดว่าหลังมือปืนลั่นไกสังหารเรียบร้อย ได้รีบเดินไปขึ้นรถ จยย.หลบหนี
แล้วลงบริเวณแยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อไปขึ้นแท็กซี่หลบหนีต่ออีกทอดหนึ่ง เพื่อให้ยากต่อการจับกุม ซึ่งจากการสอบประจักษ์พยานทั้งหมดทราบว่า บุคคลดังกล่าวมีรูปพรรณสัณฐาน และใบหน้าคล้ายนายสิระพงศ์ หรือสมบูรณ์ อาจเดช ฉายา “ต๋อง วังน้ำเขียว” ที่ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกหมายในคดียิงนายประชา ประสพสุข ไปก่อนหน้านี้ ประกอบภาพสเกตช์ ที่ทางตำรวจได้นำไปให้พยานดู ต่างให้การตรงกันว่ามีความละม้ายคล้ายกับนายสิระพงศ์ อย่างมาก จึงแน่ใจว่านายสิระพงศ์ มีส่วนเกี่ยว ข้องกับทั้งสองคดี
“คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นถ้าใครรู้ตัวว่าเกี่ยวข้องก็รีบมามอบตัวโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยของชีวิต ยังไงก็หนี ไม่รอดอยู่แล้ว ส่วนข้อสงสัยเคลือบแคลงต่าง ๆ ยืนยันว่าทางตำรวจทำไปตามพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ ไม่ได้ทำงานภายใต้คำสั่งของผู้ใด คดีนี้เราเก็บภาพวงจรปิดมาทั้งหมด 163 ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงใน วงกลาง และวงนอก โดยรอบที่เกิดเหตุ จนพบภาพบุคคล ที่คล้ายนายสิระพงศ์ กำลังเดินขึ้นแท็กซี่ ซึ่งพยานหลายปากยืนยันว่าอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุรวมถึงผู้ที่ถูกออกหมายรายอื่นด้วย ต่อจากนี้จะเร่งไล่ล่าจับให้ได้ และจะก็ต้องขยายผลไปยังผู้บงการต่อไป ส่วนคนร้ายกลุ่มนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียิงนายประชา ประสพดี แค่ไหนอยู่ระหว่างการสืบสวน สำหรับกลุ่มคนร้ายมีส่วนพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรับงานทวงหนี้ ตู้ม้า ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดยมีแหล่งมั่วสุมอยู่ในเขตภาคกลาง ภาคอีสาน และในกรุงเทพฯ” รอง ผบ.ตร. กล่าวทิ้งท้าย.