ซ่านักใช่มะ ทืบโชเฟอร์แท็กซี่ น่วมคาตีน

พ.ต.ท. พันธ์ศักดิ์ คุมพล พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันและมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ โดยประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันจับตัวผู้ลงมือไว้ได้ เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานต่างระดับข้ามถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปศาลาธรรมสพน์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา ฝั่งธนบุรี ไปตรวจสอบ

ในช่องทางจราจรด้านขวาชิดเกาะกลางถนนก่อนถึงจุดกลับรถ พบรถแท็กซี่โตโยต้า สีเขียวคาดเหลือง หมายเลขทะเบียน มข 4755 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพกันชนท้ายและกระโปรงท้ายโดนชนยุบ ด้านท้ายพบรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ แอดแวนเจอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กจ 8424 นครปฐม กันชนหน้าพังยับ

อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 3 ต.แพงพวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกทำร้ายสะบักสะบอมเลือดอาบ ใบหน้าบวมปูด ตาขวาปิด คางแตก สวมเสื้อคอโปโลสีขาวคลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีขี้ม้า กางเกงสแล็คสีเทา

ที่ลงมือทำร้ายโชเฟอร์แท็กซี่ไว้ให้ตำรวจ ทราบชื่อภายหลัง ด.ต.มานะ คิ้มแหน ผบ. หมู่ ผ.4 กก.2 สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว แต่ไม่ได้สวมเครื่องแบบ สภาพปากแตกเลือดอาบ

เบื้องต้นยึดของกลาง

ปืน 9 มม.
พร้อมกระสุน 8 นัด

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนที่ยิงขู่คู่กรณีไว้ด้วย 1 ปลอก จากนั้นนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่สน.ธรรมศาลา

ขับรถไปส่งผู้โดยสารในย่านดังกล่าว แล้วจะกลับรถมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม ขณะเปลี่ยนเลนเพื่อชิดขวา ปรากฏว่ารถกระบะที่ขับตามหลังมา พุ่งเข้าชนท้ายอย่างจัง

เมื่อจอดรถลงไปดู คนขับรถกระบะเดินปรี่เข้ามาหาด้วยท่าทางโมโหจะเอาเรื่อง

ก่อนจะกระชากเสื้อลากตัวไปที่รถ พร้อมตบศีรษะหลายครั้ง จึงฮึดสู้ หันไปชกต่อยกับคู่กรณีโดยไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ ฝ่ายคู่กรณีเห็นท่าไม่ดีเดินกลับไปที่รถกระบะ

หยิบปืนพกเข้ามาหาแล้วตะคอกใส่หน้าว่า

มึงกล้าดียังไงถึงต่อยตำรวจ เมื่อรู้ว่าคู่กรณีเป็นใครและมีอาวุธปืน จึงคุกเข่าขอชีวิต

ปรากฏว่าถูก ด.ต.มานะ ทั้งเตะต่อยกระทืบจนเลือดอาบสะบักสะบอมน่วมคาเท้า ชาวบ้านที่ผ่านมาประสบเหตุจอดรถช่วยเหลือไว้ได้ทัน โดยบอกว่าโชคดีที่ ด.ต.มานะยิงปืนใส่เฉี่ยวร่างไป 1 นัด

พนักงานสอบสวนได้ดำเนิน คดีกับ ด.ต.มานะรวม 3 ข้อหา ฐานพกพาอาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บจากนั้นส่งตัวนายวีระศักดิ์ โชเฟอร์เหยื่อตำรวจอารมณ์เดือด

ไปตรวจร่องรอยบาดแผลที่ รพ.ศิริราช เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

ในเบื้องต้น ด.ต.มานะได้ใช้เงินสด 9 หมื่นบาท ประกันตัวเองออกไป ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย ฝ่ายผู้เสียหายและคู่กรณีตกลงกันได้ พนักงานสอบสวนคงดำเนินคดี

แต่ในเรื่องของการพกปืนในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะเท่านั้น ส่วนเรื่องความผิด พ.ร.บ.จราจร กรณีชนท้ายรถแท็กซี่ ทั้ง 2 ฝ่ายจะนัดเจรจาตกลงเรื่องค่า เสียหายกันต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ