คุณหญิงณฐนนท เครียดจัดหลังถูกชี้ทุจริต 16 โครงการ

คุณหญิงณฐนนท เครียดจัดหลังถูกชี้ทุจริต 16 โครงการ

คุณหญิงณฐนนท เครียดจัดหลังถูกชี้ทุจริต 16 โครงการ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2549 12:41 น.

ณฐนนท เครียดจัดหลังถูกชี้พัวพันทุจริต 16 โครงการสร้างถนน กทม.กว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมปฏิเสธตอบคำถาม อ้างรอ ประทิน ชี้แจงอีกครั้ง ด้าน อภิรักษ์ ระบุหากพบผิดจริงตั้ง กก.สอบวินัยต่อชัวร์

หลังมีกระแสข่าวการทุจริต 16 โครงการก่อสร้างถนนและอุโมงค์ทางลอดของสำนักการโยธา(สนย.)ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการกรุงเทพมหานคร ที่มี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน ซึ่งได้ทำการตรวจสอบและพบข้าราชการการเมือง 1 ราย ข้าราชการประจำ 4 ราย มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่ง 1 ในนั้นมีรายชื่อของคุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัด กทม.ร่วมอยู่ด้วย





โดยในเรื่องนี้คุณหญิงณฐนนท กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดว่า ตามข่าวตนถูกระบุฐานความผิดว่าบกพร่องต่อหน้าที่ ซึ่งตนขอปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่อสื่อมวลชนและไม่ขอตอบคำถามใดๆอีก และอยากขอสื่อมวลชนว่าก่อนจะเสนอข่าวนั้นควรรอให้ทางคณะกรรมการฯ ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นตนจะออกมาพูดต่อหน้าสาธารณะชนอีกครั้ง

ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้มอบให้ชุดคณะกรรมการของ พล.ต.อ.ประทิน เป็นผู้ตรวจอย่างอิสระ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปผลและรายงานให้ทราบได้ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยต่อไป

บ.สไตเออร์ โร่แจงข้อเท็จจริงละเอียดยิบ ขายรถ-เรือดับเพลิงให้ กทม.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2549 15:06 น.

ที่ปรึกษาทูตพาณิชย์ออสเตรีย และสไตเออร์ เปิดเผยข้อเท็จจริงโครงการจัดหารถดับเพลิง เรือและอุปกรณ์ดับเพลิงของ กทม.ความยาว 3 หน้ากระดาษ ระบุรถดับเพลิงและอุปกรณ์ ผลิตและประกอบในต่างประเทศทั้งสิ้นตามมาตรฐานยุโรป ส่วนเรือดับเพลิงแม้จะประกอบในไทย แต่อุปกรณ์และวัสดุหลักนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด

สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย และบริษัท สไตเออร์-เดมเลอร์-พุค สเปเชียลฟาห์รซอย จีเอ็มบีเอช ในฐานะผู้จัดหาโครงการดังกล่าว ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการจัดหารถดับเพลิง เรือ และอุปกรณ์ดับเพลิงของ กทม. โดยระบุถึงข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทได้จัดหารถบรรทุกยี่ห้อมิตซูบิชิ ซึ่งผลิตในประเทศไทยนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ความจริงคือว่าโครงรถยนต์ที่รวมทั้งเครื่องยนต์และล้อได้มีการสั่งซื้อจากบริษัทมิตซูบิชิในยุโรป แต่เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถยนต์มิตซูบิชิ รวมถึงบริษัทผลิตรถปิกอัพหลายยี่ห้อด้วยกัน แล้วทำการส่งออกจากประเทศไทยไปประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกัน ทางมิตซูบิชิจะไม่ทำการผลิตโครงรถยนต์ที่รวมทั้งเครื่องยนต์และล้อเพื่อกิจการนี้ในทุกประเทศที่มิตซูบิชิมีฐานการผลิต ยกเว้นในประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้น โครงรถยนต์จึงผลิตในประเทศไทย แต่ได้ทำการส่งออกไปยังตลาดยุโรป ทั้งนี้ โครงรถยนต์ดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องยนต์และถุงลมนิรภัยตามมาตรฐาน Euro III

ขณะเดียวกัน โครงรถยนต์รวมทั้งเครื่องยนต์และล้อภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวนี้ ที่ทางบริษัทสั่งซื้อนั้นไม่สามารถหาซื้อได้ในประเทศไทย นอกจากนี้ ส่วนที่เหลือทั้งหมดของรถดับเพลิงและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับเพลิงได้ทำการผลิตและประกอบในต่างประเทศทั้งสิ้น ดังนั้น รถดับเพลิงโดยสมบูรณ์ที่บริษัทผลิตเพื่อการนี้ จึงถือเป็นรถดับเพลิงตามมาตรฐานยุโรป และได้รับใบรับรองถิ่นกำเนิดว่าเป็นรถดับเพลิงที่ผลิตในยุโรป (Certificate of Origin)

ส่วนประเด็นเรือดับเพลิงนั้น ผู้ขายได้ระบุชื่อของบริษัทผู้ผลิตรวมทั้งที่อยู่ของบริษัทที่จังหวัดชลบุรีไว้อย่างชัดเจนในสัญญาซื้อ-ขายตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น ผู้ขายค่อนข้างประหลาดใจเกี่ยวกับรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อนว่าการผลิตเรือดับเพลิงในประเทศไทยเป็นการทำผิดข้อสัญญา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรือดับเพลิงจะมีการประกอบในประเทศไทย แต่อุปกรณ์และวัสดุหลักในการผลิตเรือดับเพลิงทั้งหมดได้นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ที่มีการรายงานข่าวว่า เมื่อต้นปี 2540 ได้มีการขายเรือดับเพลิงที่เหมือนกันนี้ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในราคา 10 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง โดยในช่วงเวลาดังกล่าวราคาเรือดับเพลิงอยู่ที่ 733,600 มาร์ค หรือประมาณ 375,084 ยูโร และ 8 ปีต่อมา ราคาเรือดับเพลิงอยู่ที่ 509,242 ยูโร ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายทางการเงิน (Financing Cost) สำหรับการแบ่งชำระเงินเป็นงวดจนกระทั่งถึงปี 2554 นอกจากนี้ โครงการนี้ยังดำเนินการในรูปแบบของการค้าต่างตอบแทน (Counter Trade) ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ การฝึกอบรมและระยะเวลาการรับประกัน รวมถึงการจัดหาอะไหล่สำรองด้วย ดังนั้น จึงหมายความว่าราคาเรือดับเพลิงจะเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 3.8 ต่อปีเท่านั้น

สไตเออร์ ยืนยันว่า ในส่วนของออสเตรียได้ปฏิบัติตามข้อตกลงทางความเข้าใจและสัญญาซื้อขายด้วยดีตลอดมาตามลำดับ และที่ผ่านมาทางคณะกรรมการตรวจรับงานของ กทม. และบริษัทตรวจสอบอิสระได้เดินทางไปยุโรปเพื่อทำการตรวจสอบและตรวจเช็ครถดับเพลิง เรือดับเพลิง รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิงทั้งหมดแล้วถึง 2 ครั้ง คณะกรรมการและบริษัทตรวจสอบอิสระเห็นว่ารถดับเพลิง เรือดับเพลิง รวมถึงอุปกรณ์ดับเพลิงเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาทุกประการ

กทม.ยกเลิก 6 โครงการอี-อ็อกชัน กก.ชุดประทินสรุป 5 คนมีเอี่ยวฮั้ว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2549 17:33 น.

อภิรักษ์ เผย คกก.ปฏิรูประบบราชการ กทม. ได้คลอดระเบียบการประกวดราคาอี-อ็อกชันใหม่ เน้นเพิ่มกรรมการ มีขั้นตอนทีโออาร์ละเอียดขึ้น พร้อมยกเลิกประกวดราคาสร้างถนนอีก 6 โครงการ หลังยกเลิกไปแล้ว 10 โครงการเพื่อรออี-อ็อกชันรูปแบบใหม่จากรัฐบาล พร้อมแจงซีอีโอ บ.สไตเออร์ ยังไม่ได้ติดต่อขอเคลียร์รถดับเพลิงฉาว กก.ชุดประทินได้ข้อสรุปพบผู้เกี่ยวข้องฮั้วอีอ็อกชั่น 16 โครงการกทม. 5 รายสามารถ และ คุณหญิงณฐนนท เกี่ยวด้วย


นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า การก่อสร้างสะพานอุโมงค์ทางลอดของสำนักการโยธา (สนย.) ที่ยังไม่ได้ประกวดราคาจำนวน 6 โครงการ จาก 16 โครงการนั้น เดิมทีกำหนดประกาศประกวดราคาในวันที่ 28 ก.พ.49 แต่ขณะนี้ สนย.ได้รายงานว่าจะยกเลิกประกาศดังกล่าว พร้อมทั้งกลับไปศึกษารายละเอียดใหม่ทั้งหมดเพื่อนำมารายงานตนและรองรับการประกวดราคาด้วยระบบอี-อ็อกชันรูปแบบใหม่แทนตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี โดย กทม.จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการประกวดราคาในระบบอี-อ็อกชันแบบใหม่ภายในสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับระเบียบสำนักนายกฯ

สำหรับใน 10 โครงการที่ได้ประกวดราคาและได้ผู้รับเหมาไปแล้วนั้น เบื้องต้น 9 โครงการนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งยกเลิกทันทีที่ทราบว่ามีมูลการทุจริต ส่วนอีก 1 โครงการที่เหลือปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้วเช่นกัน แม้ว่าจะได้ตัวผู้รับเหมาแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้ สนย.กลับไปทบทวนในเรื่องราคากลางที่จะต้องไม่สูงเกินไป รวมถึงเรื่องวิธีการประกวดราคาและเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติด้านเทคนิค ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้หารือกับ สนย.เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยจะมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมพิจารณาด้วยเพื่อความโปร่งใส โดยใช้ชื่อว่า คณะกรรมการดำเนินการวิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กวอ.

นายพนิช กล่าวอีกว่า สำหรับ 6 โครงการที่ยังไม่ได้ประกวดราคานั้น ตนได้แบ่งระยะเวลาการพิจารณาออกเป็น 2 ช่วง คือ 4 โครงการแรก ได้แก่ 1.โครงการสะพานข้ามทางแยกถนนรามคำแหง-ถนนวงแหวนตะวันออก ราคากลาง 440,000,000 บาท 2.โครงการก่อสร้างทางทางต่างระดับถนนพัฒนาการ-ถนนอ่อนนุช ราคากลาง 975,000,000 บาท 3.โครงการถนนพุทธมณฑลสาย 1 ช่วงจากถนนเพชรเกษมถึงสุดเขต กทม. ราคากลาง 715,000,000 บาท และ 4.โครงการก่อสร้างทางลอดถนนศรีอยุธยา-ถนนพระรามที่ 6 ราคากลาง 610,000,000 บาท จะต้องพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 60 วันนับจากนี้

ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือ ได้แก่ 1.โครงการถนนหทัยราษฎร์ (สุวินทวงศ์-สายไหม) ราคากลาง 1,000,000,000 บาท และ 2.โครงการก่อสร้างถนนสะแกงาม ช่วงจากถนนพระราม 2 ถึงถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ราคากลาง 188,000,000 บาท นั้นให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากนี้

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 10 โครงการ และ 6 โครงการที่กำลังทบทวนอยู่นั้นจะดำเนินการควบคู่กันไป แต่เบื้องต้นจะเร่งใน 6 โครงการก่อน เนื่องจาก 5 ใน 6 เป็นโครงการในปีงบประมาณ 2549 ซึ่งตนได้กำชับให้เร่งประกวดราคาและเริ่มก่อสร้างภายในปี 2549 นี้ ส่วนอีก 1 โครงการเป็นงบในปีงบประมาณ 2548 ซึ่งได้หารือกับรัฐบาลเพื่อขอกันงบประมาณไว้ให้ก่อน ส่วนจะได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ครม.

นอกจากนี้ ใน 10 โครงการที่เหลือ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีรายละเอียด และเทคนิคพิเศษจึงอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณานานกว่าและเมื่อมีความพร้อมก็จะเร่งดำเนินการประกวดราคาทันที

ด้าน นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีที่ซีอีโอบริษัท สไตเออร์ จะมาเมืองไทย เพื่อร่วมตรวจสอบรถดับเพลิงว่า ตนยังไม่ได้รับการประสานจากบริษัทแต่อย่างใด และ กทม.ก็ไม่ได้ประสานไปด้วย ทั้งนี้ หากซีอีโอบริษัท สไตเออร์จะมาจริงๆ ก็เป็นสิทธิที่สามารถจะทำได้ ส่วนเรื่องที่มีการพาดพิงว่าข่าวที่ออกมาทำให้บริษัทได้รับความเสียหายนั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น

ส่วน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ถึงเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้บริจาคเงินให้กับตลาดนัดจตุจักรว่า ในเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการซึ่งมีนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ รองปลัด กทม. เป็นประธานได้ตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง ได้ข้อสรุปว่า ในเรื่องของเงินบริจาค ทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบทุกประการ สำหรับรถนิสสัน เทียน่า ที่ได้รับบริจาคมา กทม.ก็ได้ทำการลงรับเป็นทรัพย์สินของราชการอย่างถูกต้องแล้ว

ส่วนเรื่องตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีผู้กล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้กับ ธ.ไทยพาณิชย์ เปิดตู้เพิ่มนั้นก็ไม่เป็นความจริง แต่เป็นเพียงการโยกย้ายจุดตั้งวางใหม่เพื่อจัดระเบียบตามความสะดวกและเหมาะสมเท่านั้น

ในส่วนของข่าวที่ออกมากล่าวหาว่าภรรยาผู้ว่าฯ กทม.นำรถของทางราชการไปใช้ นั้นขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงเนื่องจากสี และทะเบียนรถไม่ตรงกัน เพราะหลังจากตรวจสอบปรากฏว่าไม่มีมูลความจริง ซึ่งในเรื่องนี้ผู้ว่าฯ กทม.จะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่าบุคคลใดเป็นผู้ออกมากล่าวหา โดยจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

สำหรับการที่ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ก.เขตห้วยขวาง ตั้งกระทู้ถามเรื่องการให้ กทม.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่ามีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งบริจาครถยนต์นิสสัน เทียน่า ให้แก่สำนักการตลาดเพื่อขอเข้าดำเนินกิจการในพื้นที่นั้น ทาง กทม.จะทำหนังสือชี้แจงไปยังสภา กทม.อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการฯ กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ กทม. ที่มี ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธาน ที่พิจารณาถึงขั้นตอนการประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-อ็อกชัน) และการรับเรื่องร้องเรียนกรณีความไม่โปร่งใสของ กทม. ได้สรุปการจัดระเบียบการประกวดราคาแบบใหม่ โดยใช้ชื่อว่า คณะกรรมการดำเนินการวิธีประมูลด้วยวิธีอี-อ็อกชัน (กวอ.) ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่ม เช่น มีกรรมการเพิ่ม มีขั้นตอนทีโออาร์ที่ละเอียดชัดเจนขึ้น มีตัวแทนประชาชนร่วมเป็นสักขีพยาน และผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ของ กทม. เป็นเลขานุการประธาน กวอ.แต่ละโครงการ คาดว่าระบบ กวอ.จะเริ่มใช้ได้ในการประมูลโครงการก่อสร้างเดิมที่ถูกระงับไป

แหล่งข่าวจากกทม.เปิดเผยว่า คณะกรรมการชุดพล.ต.อ. ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะกรรมการฯได้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพบความไม่โปร่งในในโครงการก่อสร้างถนนและอุโมงค์ทางลอดของสำนักการโยธา(สนย.) กทม.จำนวน 16 โครงการมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท โดยมีการสรุปเป็นข้อเท็จจริงและมีการระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 ราย ได้แก่ คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกทม.เกี่ยวข้องฐานที่ละเลย และเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียน, นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เกี่ยวข้องในฐานที่ผู้เสียหายร้องเรียนแต่ไม่รายงานให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.รับทราบ นายจิม พันธุมโกมล ผอ.สนย.,นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองผอ.สนย. และนายอุทัย ขันแก้ว วิศวกร 8 สนย. ซึ่งทั้ง 3 รายเกี่ยวข้องในฐานที่รู้เห็นในรายละเอียดของโครงการทั้งหมด ส่วนคณะกรรมการอีอ็อกชั่นทุกชุดนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นเพราะไม่ได้เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆขึ้น

ทั้งนี้คณะกรรมการฯกำลังสรุปเรื่องทั้งหมดโดยจัดทำเป็นเอกสารเพื่อเตรียมชี้แจงกับสื่อมวลชนคาดจะสามารถชี้แจงได้ภายในสัปดาห์นี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์