แห่เข้าอุทยานรับลมหนาวเขาใหญ่ทะลัก-สัตว์กระเจิง

อุทยานฯทะลัก นักท่องเที่ยวแห่ท้าลมหนาว โดยเฉพาะอุทยานฯใกล้กรุงเทพฯ บางแห่งรับได้แค่ 500 คน แต่นักท่องเที่ยวเข้าไปถึง 1,500 คน บางแห่งเข้าได้ 600 คน แต่มีคนไปเที่ยวจริง 2,000 คน แถมยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าด้วย โดยเฉพาะที่เขาใหญ่นักท่องเที่ยวขนสับปะรดมาล่อช้าง ทำให้ลิง หมาไน กวาง ฯลฯ ติดนิสัยมารื้อเศษอาหารในถังขยะ ลิงแสมมารื้อข้าวของในบ้านพักและเต็นท์นักท่องเที่ยว เพราะรู้ว่ามีอาหารแน่นอน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในช่วงที่อุณหภูมิของประเทศลดระดับลง ทำให้ภูมิอากาศทั่วประเทศหนาวเย็น โดยเฉพาะในภาคเหนือและตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในการเดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นตามสถานท่องเที่ยวประเภทภูเขาต่างๆ ทำให้ขณะนี้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปจำนวนมาก เช่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ทำให้ขณะนี้ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ ต้องรับภาระหนักในการให้บริการนักท่องเที่ยวในการจัดการดูแลสถานที่ รวมไปถึงทรัพยากรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้และสัตว์ป่าบางชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

"โดยเฉพาะอุทยานฯ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จะต้องรับภาระหนักมาก ในการให้บริการนักท่องเที่ยว โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็น พบว่าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวจำนวนมาก จนเกินศักยภาพของสถานที่ที่จะรองรับได้ โดยเฉพาะบริเวณที่กางเต็นท์ซึ่งมีจำนวนจำกัด บางพื้นที่กำหนดว่าสามารถรับคนได้เพียง 500 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปถึง 1,200-1,500 คน หรือบางพื้นที่กำหนดให้เข้าได้ 600 คน แต่มีคนเข้าไปถึง 2,000 คน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าสร้างปัญหาให้ธรรมชาติมาก จากจำนวนขยะที่เพิ่มมากขึ้น เสียงอึกทึกครึกโครม และอื่นๆ" นายเฉลิมศักดิ์กล่าว

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังกระทบต่อสัตว์ป่าจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าในอุทยานฯ ด้วย โดยตนได้รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า ขณะนี้สัตว์ป่าหลายชนิดมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปหลายอย่าง สืบเนื่องจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากและบางส่วนต้องการที่จะเห็นสัตว์ป่า จึงพยายามที่จะนำอาหารออกมาล่อเพื่อให้สัตว์ออกจากป่า เช่น นำสับปะรดใส่รถปิคอัพไปล่อช้างป่า ซึ่งมีอยู่บ่อยๆ จนทำให้ล่าสุดช้างป่าเหล่านี้เริ่มคุ้นเคย จึงมักจะออกมาหาอาหารจากรถกระบะที่ขับผ่านมา ทำให้เกิดอันตรายกับผู้สัญจรไปมาหรือบางตัวก็จะเดินไปตามถังขยะเพื่อยกขยะหาอาหารกิน

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขยะจำพวกถุงพลาสติกที่มีเศษอาหารที่ถูกนำไปทิ้งไว้ในเขตอุทยานฯ ทำให้สัตว์ป่าจำพวกลิงชนิดต่างๆ หมาไน กวาง พากันออกมาหาอาหารจากเศษอาหารที่ติดอยู่ในถุงพลาสติกดังกล่าว กวางบางตัวก็กลืนกินพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปจนเสียชีวิต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานด้วยว่า ขณะนี้ระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้พบว่ามีลิงแสมเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นอย่างมาก และมักจะออกมาขโมยข้าวของของนักท่องเที่ยวตามบ้านพักหรือเต็นท์พักอาศัย เนื่องจากลิงเหล่านี้เรียนรู้ว่า สิ่งของที่นักท่องเที่ยวนำมามักจะมีอาหารอยู่ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีสัตว์จำพวกหมาไนที่เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดยปัญหาสัตว์สองชนิดนี้เพิ่มขึ้นกำลังจะกลายเป็นปัญหาสำคัญของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถลดจำนวนหรือย้ายสถานที่ให้สัตว์เหล่านี้ได้ ดังนั้น จึงอยากจะขอให้นักท่องเที่ยวเลิกให้อาหารกับสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานฯ เพื่อไม่ทำให้สัตว์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม

"ช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวขณะนี้ ปัญหาจึงเกิดขึ้นตามอุทยานฯ หลายๆ แห่งโดยเฉพาะเขาใหญ่ต้องรับภาระหนักที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่เข้าใจวิธีการท่องเที่ยวอุทยานที่ดีเท่าที่ควร ว่ามีความแตกต่างกับการท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆ เนื่องจากอุทยานฯ มีความเปราะบางในระบบนิเวศ การเที่ยวอุทยานฯ จึงไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าไปตีกลองร้องรำทำเพลง หรือเปลี่ยนสถานที่ดื่มเหล้า เพราะการกระทำเหล่านี้ล้วนแต่สร้างผลกระทบให้กับระบบนิเวศในป่า ดังนั้น จึงอยากจะขอร้องให้นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการเที่ยวในรูปแบบนี้ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวนี้ จะเป็นช่วงที่อุทยานฯ ต้องรับภาระหนักที่สุด" นายเฉลิมศักดิ์กล่าว