4 คนร้ายมารยาทแสนงาม ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านปล้น นศ.ป.โท

4 คนร้ายมารยาทงดงาม ถอดรองเท้าหน้าบ้าน ก่อนเข้าปล้นบ้านนักศึกษาปริญญาโท ได้เพียงโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เครื่องเล่นเอ็มพี 3 อีก 2 เครื่อง หลบหนีไป ขณะที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนักศึกษาหนุ่ม ด้วยยังสับสนหลายประเด็น

วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.บุญเอก สรรพคง ร้อยเวร สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุมีคนร้านบุกปล้นทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 80/207 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 97 หรือซอยอิ่มทิพย์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ต.พยงค์ เอี่ยมสกุล สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ในที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 54 ตร.ว.ตั้งอยู่ในรั้วรอบขอบชิด ตำรวจพบ นายธรรมวัฒน์ คล้ายวงศ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาปริญญาโท คณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ยืนรอให้การกันบตำรวจด้วยอาการที่ยังไม่หายตกใจ

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายธรรมวัฒน์ ให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุอยู่อาศัยด้วยกัน 4 คน มีบิดา มารดา น้องสาวและตนเอง ขณะเกิดเหตุ บิดาเดินทางไปต่างจังหวัด ขณะที่มารดา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ในเครือบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ไปทำงาน ส่วนน้องสาวไปเรียนหนังสือ มีเพียงตนอยู่บ้านคนเดียวเท่านั้น ขณะเกิดเหตุ กำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ เพื่อรอเวลาไปเรียนในช่วงบ่าย ขณะที่นั่งเล่นคอมพ์อยู่นั้น ได้ยินเสียงรั้วเหล็กหน้าบ้านดังผิดปกติ จึงหันไปดู พบคนร้าย 4 คน สวมหมวกไอ้โม่ง จำได้เพียงคนเดียวที่แต่งกายสวมเสื้อยืด กางเกงขายาวลายพรางทหาร กำลังพากันปีนข้ามรั้วเข้ามา ด้วยความตกใจ จึงรีบลุกไปเพื่อล็อกประตูบ้าน แต่กลุ่มคนร้าย ตรงมาที่ประตู ซึ่งเป็นมุ้งลวด จากนั้น หนึ่งในคนร้ายชักอาวุธปืนออกมาขู่ให้เปิดประตู หากไม่เปิดจะยิงให้ตาย ด้วยความกลัว จึงยอมเปิดประตูให้

นายธรรมวัฒน์ ให้การต่อว่า ก่อนที่คนร้ายจะพากันเข้ามาในบ้านนั้น ทั้งหมดพากันถอดรองเท้าเรียบร้อย และหนึ่งในคนร้ายเดินตรงมาใช้อาวุธปืนจ่อที่ตนไม่ให้ขัดขืน จากนั้นคนร้ายอีก 3 คน พากันกระจายไปรื้อค้นหาของมีค่าภายในบ้าน แต่คนร้ายไม่สามารถค้นหาเจอ จึงได้พากันลงกลับมา และหยิบโทรศัพท์มือถือของตนที่วางอยู่บนโต๊ะไป 3 เครื่อง รวมทั้งเครื่องเอ็มพี 3 อีก 2 เครื่อง เงินสด 2 พันบาท ก่อนที่จะพากันสวมรองเท้าแล้วหลบหนีไป

ผมไม่ทราบว่า กลุ่มคนร้ายพากันใช้ยานพาหนะอะไร เนื่องจากตอนเข้ามา ไม่ได้ยินเสียงรถ และหลังเกิดเหตุได้รีบโทรศัพท์บอกแม่ พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ นายธรรมวัฒน์ ให้การ

เบื้องต้นตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การของนายธรรมวัฒน์ทั้งหมด เนื่องจากยังให้การสับสน โดยครั้งแรก บอกว่า คนร้ายมีอาวุธปืนมากันครบ 4 กระบอก แต่ต่อมาบอกมีเพียง 3 กระบอก หรือบางครั้งบอกมีเพียงแค่ 2 กระบอกเท่านั้น ซึ่งตำรวจจะได้สอบปากคำนายธรรมวัฒน์อย่างละเอียด รวมทั้งประสานกองพิสูจน์หลักฐาน ส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายตามจุดต่างๆ ในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อค้นหาความจริงและติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป