เตือนภัยเว็บลามก โชว์เซ็กซ์ออนไลน์

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ว่า ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ย่านสาธุประดิษฐ์ กทม. ว่ามีผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตบางร้านใช้กลยุทธ์ดึงลูกค้าด้วยวิธีผิดๆ คือดาวน์โหลด โปรแกรมชื่อ แคมฟรอก ซึ่งมีรูปแบบโปรแกรมในการสื่อสารระหว่างบุคคล นำเอารูปแบบโปรแกรมสนทนาทางอินเตอร์เน็ต หรือ เอ็มเอสเอ็น ห้องแชต และระบบเรดิโอมารวมกัน ซึ่งภายในโปรแกรมดังกล่าวแบ่งเป็นห้องสนทนาจำนวนมาก ทั้งไทยและต่างประเทศ

โดยห้องสนทนาบางห้องก็จะมีการโชว์ลามกอนาจารของผู้ที่เข้ามาใช้บริการผ่านกล้องเว็บแคม ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหนังโป๊ให้ดู การโชว์แก้ผ้า เต้นท่าทางยั่วยวน แสดงการร่วมเพศของคู่หนุ่มสาว การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง รวมไปถึงการร่วมเพศแบบเซ็กซ์หมู่ โดยจะมีดีเจของแต่ละห้องเป็นผู้จัดรายการเพลง พร้อมทั้งพูดคุยชักชวนให้สมาชิกทั้งหลายเปลือยกายโชว์ หรือถ้ามีใครกำลังโชว์ร่วมเพศอยู่ จะประกาศให้ผู้ใช้บริการเข้าไปดู บางครั้งดีเจก็จะส่งเสียงครวญครางแทนคนที่กำลังแสดงการร่วมเพศอยู่ หรือดีเจก็ลุกขึ้นมาถอดเสื้อร่วมโชว์อนาจารด้วย

เมื่อติดตามตรวจสอบพบว่า เป็นเซิร์ฟเวอร์ที่จดทะเบียนและดำเนินการในประเทศไทย ที่สำคัญโปรแกรมนี้ไม่มีใครได้รับเงินตอบแทน กลุ่มคนที่เป็นเจ้าของสร้างขึ้นมาเพื่อหาความสนุกเท่านั้น โดยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีผู้ใช้บริการที่สมัครเป็นสมาชิกนับแสนราย เป็นการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ในทางที่ผิด ซึ่งกลุ่มคนที่เป็นนักศึกษาเหล่านี้ น่าจะนำเวลาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่า ไม่ใช่หมกมุ่นแสดงโชว์ลามก ร่วมเพศในหอพัก

และบางส่วนก็โชว์ที่ห้องนอนภายในบ้าน โดยที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งเป็นการทำลายวัฒนธรรมของไทย สร้างค่านิยมผิดๆ ให้กับวัยรุ่น ดังนั้นจะประสานให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้ามาตรวจสอบหาต้นตอของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี พร้อมทั้งปิดหรือบล็อกโปรแกรมดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังฯ กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางภูมิจิต ยอง อุปนายกสมาคม ผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวถึงการใช้งานเว็บไซต์โปรแกรมสนทนาแคมฟรอก ว่า ตัวโปรแกรมนี้เปรียบเหมือนกับโปรแกรมสนทนาที่เปิดกว้างให้คนเล่นสามารถเข้าไปดูในห้องของใครก็ได้ ในรูปแบบวีดิโอ คอนเฟอร์เรนซ์ และมีผู้ที่ดูแลห้องเป็นคนคอยตั้งกติกา และตัวเซิร์ฟเวอร์ ในตรงนี้เรียกคนเหล่านี้ว่าที่เป็นโอปะเรเตอร์ เมื่อมีคนเข้ามาชมก็จะเริ่มเปิดเพลงยั่วยุให้คนในห้องรู้สึกคึกคัก

โดยโอปะเรเตอร์จะเห็นหมดว่าในสมาชิกแต่ละคนใครเปิดเว็บแคมอยู่ ก็จะพยายามพูดจาเชิงยั่วให้สมาชิกโชว์เรือนร่าง หรือยุให้ถอดเสื้อผ้า และพอใครมาถอดก็จะบอกต่อให้เข้าไปดู และตรงนี้เหมือนกับการท้าให้คนถอดไปเรื่อยๆ เหมือนกับการเชียร์มวย กลายเป็นการท้าทายความกล้าของคนที่เล่นไปโดยปริยาย ซึ่งบรรยากาศต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้เด็กที่เข้ามาดู ไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ อาจคล้อยตามหรือไประบายออกในทางที่ผิด เช่น ไปฉุดผู้หญิงเพื่อทำอนาจาร หรือไปก่อคดีข่มขืน บริการตัวนี้ต่างจากการดูหนังลามก หรือวีดิโอโป๊ เพราะผู้ดูไม่สามารถโต้ตอบฝ่ายตรงข้าง ขณะที่แคมฟรอกมีให้ทั้งภาพและเสียงผ่านทางอินเตอร์เน็ต จึงเร้าใจมากกว่า จึงเชื่อว่าบริการแบบนี้ ปลุกกำหนัดของคนหนุ่มได้ไม่ยากเลย จากการที่ดีเจในห้องยั่วยุ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าคนที่ทำแบบนี้ทุเรศมาก

อย่างไรก็ดี อุปนายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า แม้ในเรื่องนี้จะมีคนบอกว่าเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล แต่หากดูจากไดเรกทอรีของเว็บก็รู้แล้วว่ามีโป๊แน่ ทางแก้ปัญหาหรือวิธีป้องกัน บางทีอาจต้องกลับไปใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไดอัลอัพที่ช้าๆ แต่ความจริงคงทำไม่ได้ จะไปบล็อกเว็บไซต์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี และหากปิดไปคนที่เล่นย่อมหาช่องทางไปเล่นได้อีก

จะกลายเป็นการดูแลที่ลำบากกว่าเดิม สู้ปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ดีกว่า แล้วให้เจ้าหน้าที่ตามดูว่า โอปะเรเตอร์ที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้แฝงตัวอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ที่ใดบ้าง หากเจอก็ให้ทางผู้ให้บริการบันทึกเลขไอพีไว้ แล้วค่อยบล็อก ส่วนผู้เล่นตามบ้าน ผู้ปกครองควรหาโปรแกรมควบคุมการใช้ อินเตอร์เน็ต ที่กระทรวงไอซีทีแจกมาใช้ หรือนั่งกับลูกเมื่อลูกเล่นอินเตอร์เน็ต