อ้างตัวเป็นนักบินซื้อบัครเครดิตโจรรูดแบงก์เจ๊ง10ล.

"หนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นนักบินรูดเครดิตอื้อ"


รวบหนุ่มใหญ่รับซื้อบัตรเครดิตจากโจร อ้างตัวเป็นนักบินตระเวนใช้บัตรจ่ายค่าห้องพักในโรงแรมหรู ซ้ำรูดซื้อสินค้าแพงลิ่วอีกอื้อ สารภาพเคยถูกจับ แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องเลยกลับมาทำอีก ตร.พบเงินหมุนเวียนร่วม 2 ล้าน แบงก์เจ้าของบัตรสูญเงินร่วม 10 ล้าน

เหตุการณ์หนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นนักบินใช้บัตรเครดิตที่รับซื้อจากโจรมาจ่ายค่าห้องพักตามโรงแรมหรู พร้อมทั้งรูดบัตรซื้อสินค้าราคาแพงจนถูกตำรวจตามแกะรอยจับกุมตัวได้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 ธันวาคม พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) แถลงผลการจับกุม นายอนุชิต ฝ้ายเพชร์ หรือกาวาง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 5 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 8 มีนาคม 2549 ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้เมื่อเวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องพักเลขที่ 614 อาคารศรีประจักษ์ เลขที่ 2 ซ.ลาดพร้าว 120 ถ.ลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. พร้อมของกลางเป็นบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ จำนวน 10 ใบ สุราต่างประเทศ 10 ขวด น้ำหอม 3 ขวด ครีมบำรุงผิว 3 ขวด เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 15 เล่ม และสมุดเช็ค 16 ใบ

"ธนาคารสูญเงิน กว่า 10 ล้านบาท"


ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมรับซื้อบัตรเครดิตที่ถูกขโมยมาอีกทอด หลังจากนั้นผู้ต้องหาจะนำบัตรเครดิตมาทำการรูดซื้อสินค้าราคาแพงตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ นอกจากนั้นยังใช้จ่ายอย่างหรูหรา โดยมักจะแอบอ้างเป็นนักบินของสายการบินต่างๆ เข้าพักตามโรงแรมชื่อดังทั่วประเทศ เช่นที่ภูเก็ต และเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าจับกุม

ผบก.ทท. กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันมาแล้วหนึ่งครั้งที่ จ.ปทุมธานี แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากยังขาดพยานหลักฐาน จึงย่ามใจกลับมาลงมือก่อเหตุอีกครั้ง ด้วยการรับซื้อบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ถูกคนร้ายขโมยมาจากการลักลอบเปิดกระเป๋าของนักท่องเที่ยวที่วางไว้ในห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถโดยสาร โดยจะรับซื้อบัตรเครดิตมาในราคาใบละ 1 หมื่นบาท จากนั้นจะนำไปรูดซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนแนบไปด้วย นอกจากนั้น บัตรเครดิตบางส่วนก็จะถูกนำไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์

"ผู้ต้องหารายนี้ได้กระทำผิดเป็นเวลานานหลายปี จนมีเงินหมุนเวียนในธนาคารประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งเราเชื่อว่าเงินเหล่านี้ได้มาจากการกระทำผิด เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่กลับมีเงินจำนวนมากในบัญชีธนาคาร นอกจากนี้ผู้ต้องหายังเป็นที่ต้องการตัวของธนาคารหลายแห่ง เพราะนำบัตรเครดิตของธนาคารนั้นๆ ไปรูดซื้อสินค้าจนมีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท" พล.ต.ต.ปัญญา ระบุ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์