จับหนุ่มใหญ่ตุ๋นเข้านายร้อย
มีเหยื่อหลายราย สืบจังหวัดอ่างทองรวบหนุ่ม 18 มงกุฎ ต้มตุ๋นเข้านายร้อยทหาร เหยื่อถูกหลอกหลายรายไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ เผยพฤติกรรมอ้างว่าซี้กับนายทหารระดับสูง สามารถวิ่งเต้นให้เข้าเป็นนายทหารหรือนายสิบได้โดยไม่ต้องสอบ กล่อมจนเหยื่อยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินที่เป็นค่าวิ่งเต้น เข้านายร้อยจ่าย 4 แสน ส่วนนายสิบเอามา 2 แสน พอได้เงินเชิดหนี เอาไปเล่นพนัน-เที่ยวผู้หญิง ก่อนหนีไปจนมุมที่ชัยนาท เหยื่อรุดดูตัว-แค้นจัดโดดตบหน้า
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.ท.ธงรบ แจ้งจิต สว.กก.สส.ภ.จว.อ่างทอง นำหมายศาลจังหวัดอ่างทองที่ 105/2552 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2552 เข้าจับกุมนายสายชล ลือสาคร อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้าบริษัทเอสซีเอส สปอร์ตแวร์ ต.หาดอาสา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท นำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อ่างทอง หลังก่อเหตุฉ้อโกงโดยอ้างว่ารู้จักกับนายทหาร สามารถนำลูกหลานเข้าเป็นนายร้อยทหารได้ จนมีผู้หลงเชื่อหลายรายเสียเงินนับล้านบาท
พล.ต.ต.เมธี กล่าวว่า นายสายชลได้ก่อคดีฉ้อโกงทรัพย์สิน โดยอ้างว่าเป็นคนที่รู้จักกับนายทหารระดับสูง สามารถวิ่งเต้นให้ลูกหลานเข้าเป็นนายทหารหรือนายสิบได้โดยไม่ต้องสอบ จนมีเหยื่อที่ถูกหลอกหลายราย แต่ละรายต้องเสียเงินให้กับนายสายชลหลายแสนบาท ซึ่งหลังจากนายสายชลได้เงินหมดก็หลบหนีไป กระทั่งทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายสายชลหลบหนีไปทำงานอยู่ที่โรงงานรองเท้าเอสซีเอส จึงนำหมายศาลเข้าจับกุมดังกล่าว โดยในจำนวนผู้เสียหาย 2 ใน 4 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับพฤติกรรมของนายสายชล จะพูดจากล่อมให้เหยื่อหลงเชื่อว่ารู้จักกับนายทหารระดับสูงจริง พร้อมกับทำทีเป็นติดต่อนายทหารคนดังกล่าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นพูดขอเงินเหยื่ออ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นานา ซึ่งเหยื่อก็หลงเชื่อเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก โดยถ้าจะเข้าเป็นนายร้อยทหารต้องเสียเงิน 3-4 แสนบาท หากเข้าเป็นนายสิบเสียเงินประมาณ 1-2 แสนบาท จากการสอบสวนนายสายชลรับสารภาพว่าได้หลอกลวงจริง ได้เงินจากเหยื่อทั้ง 4 รายกว่า 1 ล้านบาท แล้วนำเงินไปเล่นการพนันและเที่ยวผู้หญิง ทั้งนี้ ทราบว่านายสายชลมีภรรยามากถึง 9 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายสายชลมาทำการสอบสวน ที่ห้องสอบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อ่างทองนั้น ได้มีผู้เสียหายเข้ามาดูตัว โดยเฉพาะนางวิมล จำนงถิ่น อายุ 58 ปี ซึ่งถูกนายสายชลหลอกเงินไปกว่า 4 แสนบาท ทันทีที่นางวิมลเห็นนายสายชลก็เดินปรี่เข้าไปต่อว่าอย่างรุนแรง พร้อมกับใช้มือตบหน้าด้วยความโกรธแค้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจับแยกออกมา ก่อนจะส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ดำเนินคดีต่อไป