วันนี้ 15 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สน.มีนบุรี พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร ผบก.น. 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.มีนบุรี, พ.ต.ท.มนตรี กองจำปา รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี ,พ.ต.ท.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด สว.สส.สน.มีนบุรี, พ.ต.ต.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส.สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่ตร.ฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ เกตุรุ่งเรือง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ 10 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 248/2554 ลงวันที่ 15 มี.ค. 2554 โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณสุเหร่าลำอ้ายสอ ต.บางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกเซาว์เออร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน u 621953 พร้อมแม็กกาซีน รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
พล.ต.ต.ศานิตย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.50 น.ของวันที่ 12 มี.ค. ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ เสื้อแจ๊คเก็ดสีดำ กางเกงยีนส์ ขับขี่และซ้อนท้ายรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายศักดา พรมประดิษฐ์ จำนวน 14 นัดถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่หน้า บ.ซีพีเอฟ ถ.สุวินทร์วงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ซึ่งคนร้ายทั้ง 2 ก่อเหตุอย่างอุกอาจต่อหน้าประชาชนที่สัญจรไปมา สร้างความสะเทือนขวัญแก่ประชาชนที่พบเห็น เจ้าหน้าที่ตร.ฝ่ายสืบสวนนำโดย พ.ต.ต.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส.สน.มีนบุรี ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ตายเคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานที่โรงงานเดียวกันที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยหญิงสาวผู้นั้นได้แต่งงานมีสามีและลูกอยู่แล้ว ขยายผลเพิ่มเติมจนทราบว่า หญิงสาวดังกล่าวชื่อ นส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ซึ่งแต่งงานอยู่กินกับนายณรงค์ฤทธิ์ รวมทั้งก่อนหน้านี้จับได้ว่าภรรยาสาวคบชู้และมีความสัมพันธ์กันจนเกิดปากเสียงทะเลาะกับภรรยา รวมทั้งขอร้องให้ภรรยายุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่กลับถูกผู้ตายพูดจาดูถูก ก่อนตัดสินใจนัดมาที่จุดเกิดเหตุเพื่อเคลียร์เรื่องราวที่ค้างคาใจ แต่นายณรงค์ฤทธิ์สุดทนบันดาลโทสะกระหน่ำยิงผู้ตายดับ
นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า ตนกับภรรยาแต่งงานอยู่กินกันมาหลายปีจนมีลูกด้วยกิน 1 คน โดยตนมีอาชีพทำไร่ทำนา ส่วนภรรยาเป็นสาวโรงงานแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาตนทราบว่า น.ส.เอ๋ ได้แอบลักลอบมีความสัมพันธ์สวาทกับผู้ตาย จึงขอให้ยุติเรื่องดังกล่าว แต่นายศักดาไม่ยอมจบเรื่องดังกล่าว แต่ยังโทรศัพท์มาหาภรรยาตน เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยตนขอให้นายศักดาจบแต่ก็ถูกผู้ตายตอบกับว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนเกิดความแค้น จนกระทั่งตนทนกับเรื่องดังกล่าวไม่ได้จึงขอให้น.ส.เอ๋โทรศัพท์หาผู้ตายให้ออกมาเจอกันที่จุดเกิดเหตุ แต่กลับถูกผู้ตายพูดกลับมาว่า “มึงมาหากูอยากมีเรื่องหรือ ระวังตัวมึงไว้” ตนจึงได้วางแผนเพื่อที่จะฆ่านายศักดาโดยซื้ออาวุธปืนดังกล่าวมาจากเพื่อนในราคา 2 หมื่นบาท และให้เพื่อนตนขับขี่ซ้อนจยย.ไปเพื่อพบนายศักดา เมื่อไปถึงที่นัดหมายตนเห็นหน้าหนุ่มชู้ก็ทนไม่ได้รวบรวมความแค้นที่มีมาทั้งหมดควักปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวขวาออกมายิงนายศักดา จนนายศักดาล้มลงตนจึงยิงซ้ำจนหมดแม็ก และใช้อาวุธปืนดังกล่าวตบเข้าไปที่ศีรษะ 3 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ตายได้เสียชีวิตก่อนที่จะซ้อนจยย.หลบหนีไปกบดานที่บ้านพัก
ผบก.น.3 กล่าวว่า ในส่วนของเพื่อนของผู้ต้องหาที่ร่วมลงมือก่อเหตุนั้นได้ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ขณะเข้าจับกุม แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่าได้หนีไปกบดานอยู่ที่ไหนและจะขอนุญาตออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนไปในเขตเมือง ชุมชน หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตร.ได้นำตัวนายณรงค์ฤทธิ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุที่บริเวณศาลารอรถโดยสารหน้าบริษัท ซีพีเอฟ ถ.สุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ท่ามกลางสายตาประชาชนที่สัญจรไปมาและทราบข่าว โดยตลอดการทำแผนประกอบการรับสารภาพผู้ต้องหามีสีหน้าที่เคร่งเครียด.