ปลิดชีพ นรต.สามพราน ก๊วนโจ๋ราม2อ้างเมาสุรา

ว่าที่นายร้อยจบชีวิตเหตุเพราะวัยรุ่นวัยรุ่นเมาสุราอาละวาด


ว่าที่นายร้อยหนุ่มจากรั้วโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ต้องจบชีวิตลงก่อนวัยอันควร หลังเข้าระงับเหตุวัยรุ่นเมาสุราอาละวาดยกพวกตีกัน พลาดถูกแทงตาย อดสวมเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

ความหวังของครอบครัว ชูชีวา ที่จะได้เห็น นรต.ธนวัฒน์ ชูชีวา สวมเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ต้องมลายหายไปในชั่วพริบตา ทันทีที่เด็กหนุ่มอนาคตไกลผู้นี้ถูกกลุ่มวัยรุ่นแทงเสียชีวิต


เหตุเกิดขึ้น 5 ธันวาคม ที่เขตประเวศ


เหตุการณ์ที่ครอบครัว ชูชีวา ต้องจดจำไปชั่วชีวิต อุบัติขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 4 ต่อเนื่องวันที่ 5 ธันวาคม ขณะ นรต.ธนวัฒน์ พร้อมพวก เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง บริเวณลานโล่งทางเข้าอาคารนิรันดร์คอนโดมิเนียม แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ได้พบเห็นกลุ่มวัยรุ่นเมาสุราอาละวาดทะเลาะวิวาทกัน ด้วยจิตวิญญาณแห่งว่าที่นายตำรวจหนุ่มไฟแรง นรต.ธนวัฒน์ จึงเข้าห้ามปรามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว

ผู้ต้องหาใช้มีดพกแทงเข้าบริเวณชายโครง


ในเหตุการณ์ชุลมุนเช่นนั้น เด็กหนุ่มนักเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนนายร้อย
ตำรวจสามพรานปีสุดท้าย คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์ที่เลวร้ายจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ความเป็นจริงกับการคาดหวังของเด็กหนุ่มเป็นเส้นทางขนานกัน

นอกจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นจะไม่ยุติแล้ว ปลายมีดแหลมๆ จากมีดพับที่คมกริบกลับหายเข้าไปในเนื้อหนังบริเวณชายโครงขวาของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว เลือดสดๆ ทะลักออกจากตัวแดงฉาน และชั่วไม่กี่อึดใจต่อมา "ธนวัฒน์" ก็ทรุดลงกองกับพื้น ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ตะลุมบอนกันพากันแตกฮือกระจัดกระจายกันหลบหนี


หน่วยสืบสวนไร่ล่าคนร้ายอย่างเร่งดด่วน


กลุ่มเพื่อนๆ ของ นรต.ธนวัฒน์ จึงรีบนำร่างที่มีเพียงลมหายใจรวยรินของเขาส่งโรงพยาบาลปิยะมินทร์ เพื่อให้แพทย์เยียวยายื้อชีวิต แต่แผลจากคมมีดฉกรรจ์ ประกอบกับร่างกายเสียเลือดมาก ว่าที่นายร้อยตำรวจใหม่ที่กำลังจะบรรจุสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจึงสิ้นใจลง

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ศิริสุนทร ผกก.สน.อุดมสุข และ พ.ต.ท.พงษ์พันธ์ สุวรรณสิงห์ สว.สส.สน.อุดมสุข พร้อมชุดสืบสวนของโรงพัก ลงพื้นที่หาข่าวเพื่อไล่ล่าคนร้ายอย่างเร่งด่วน พบเศษแก้วและเศษขวดโซดากระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ

พยานหลายคนให้ปากคำสอดคล้องกัน


พบพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกหลายปาก ซึ่งแทบทุกปากให้การสอดคล้องกันว่า ผู้ที่
ลงมือทำร้าย นรต.ธนวัฒน์ เป็นกลุ่มวัยรุ่นขาประจำ ที่มักรวมตัวกันร่ำสุราอยู่ในย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2

หลักฐานเด็ดอีกชิ้นที่ทำให้ตำรวจชุดสืบสวนควานหาตัวคนร้ายได้ไม่ยากคือ ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของอาคารนิรันดร์คอนโดมิเนียมติดตั้งไว้ในบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ แม้ภาพที่บันทึกได้จะไม่มีเสียงประกอบ แต่ก็เพียงพอที่จะลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ และยังยืนยันได้ว่าใครเป็นใคร


ชุดสืบสวนตรวจค้นห้อง...พบหลักฐาน


3 ชั่วโมงให้หลัง ชุดสืบสวนของ สน.อุดมสุข กว่า 10 นาย นำหมายศาลบุกตรวจค้นห้องพักชั้นล่าง ตึกอี ภายในอาคารที่พักนิรันดร์คอนโดมิเนียม 7 ไม่ไกลจากร้านก๋วยเตี๋ยวที่ นรต.ธนวัฒน์ถูกคมมีดถึงแก่ความตาย พบนายสิวานัส ปิ่นนาค และวัยรุ่นชายอีก 3 คน อยู่ภายในห้อง

โดยมีปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีก 2 นัด อยู่ในความครอบครอง ขณะที่ชุดสืบสวนอีกชุดบุกตรวจค้นห้องพักชั้น 2 ตึก เค อาคารนิรันดร์คอนโดมิเนีดดยม 1 พบนายไพรัช ชูทรัพย์ พักอยู่ และจากการตรวจค้นห้องพบปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีก 1 นัด มีดปลายแหลมชนิดพับอีก 1 เล่ม ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

เพื่อนผู้ตายให้ปากคำสอดคล้องกัน


นายสิวานัส ให้การต่อตำรวจสอดคล้องกันว่า นรต.ธนวัฒน์ ถูกเพื่อนร่วมก๊วนทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตจริง โดยมือมีดคือ นายณัฐวุฒิ หรืออั๋น มุจนานนท์ อายุ 25 ปี หลังเกิดเหตุนายณัฐวุฒิ

ได้นำมีดพับที่ใช้แทง นรต.ธนวัฒน์จนถึงแก่ความตาย ไปฝากไว้กับนายไพรัช โดยกำชับเพื่อนว่าให้ล้างคราบเลือดออกจากมีดด้วย หลังจากสั่งเสียเพื่อนสนิทแล้ว นายณัฐวุฒิได้เก็บสิ่งของสัมภาระหลบหนีออกจากอาคารที่พักนิรันดร์คอนโดมิเนียม ย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ไปทันที

ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน


ส่วนผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์และร่วมลงมือทำร้ายร่างกาย นรต.ธนวัฒน์ นอกจาก
นายณัฐวุฒิแล้ว ยังมี นายชัยศักดิ์ วงศ์สงวน อายุ 22 ปี นายมงคล สนั่นเอื้อ อายุ 21 ปี นายวัชพงศ์ ศิลาทิพย์ อายุ 20 ปี และชายวัยรุ่นพื้นเพทางภาคใต้อีก 2 คน ซึ่งคนทั้งสองเป็นเพื่อนใหม่ของ นายไพรัช และนายสิวานัส จึงยังจำชื่อไม่ได้

ตำรวจนำคำให้การของกลุ่มวัยรุ่นที่ควบคุมได้ไปตรวจเปรียบเทียบกับภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าข้อมูลที่ได้ทั้งสองทางมีความสอดคล้องกัน จึงขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน คือ นายณัฐวุฒิ นายชัยศักดิ์ นายมงคล และนายวัชพงศ์


ตำรวจสามารถจับกุมได้ในเช้าวันที่ 7 ธันวาค


หลังศาลอนุมัติหมายจับ ตำรวจสามารถจับกุมนายชัยศักดิ์ และนายมงคล ได้เมื่อเช้าวันที่ 7 ธันวาคม ขณะทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยทั้งสองเปิดปากสารภาพว่าร่วมทำร้ายร่างกาย

นรต.ธนวัฒน์จริง เนื่องจากเมาสุรา "ระหว่างที่พวกผมนั่งดื่มสุรากันจนมึนเมาได้เกิดเขม่นกับกลุ่มวัยรุ่นต่างโต๊ะ ซึ่งผู้ตายอยู่ร่วมในกลุ่มนั้นด้วย ระหว่างนั้นมีการปาแก้ว ปาขวดโซดากันขึ้น

ผูต้องหาชักมีดพกออกมาหวังทำร้าย


ผู้ตายเดินเข้ามาหาที่โต๊ะและถามว่าปาขวดกันทำไม นายณัฐวุฒิจึงกระชากคอเสื้อ
ผู้ตาย ขณะที่ชุลมุนกันอยู่ เพื่อนผู้ตายเดินเข้ามาหาที่โต๊ะอีกคน นายณัฐวุฒิจึงหยิบมีดพกออกมา โดยหวังจะทำร้ายเพื่อนของผู้ตาย แต่เพื่อนคนดังกล่าววิ่งหนี นายณัฐวุฒิจึงไล่ตาม" นายชัยศักดิ์ ให้การต่อตำรวจ

หนึ่งในคนร้ายร่วมกันสังหารนักเรียนนายร้อยตำรวจ ยังให้การอีกว่า ขณะที่กลุ่มของตนชุลมุนอยู่กับกลุ่มเพื่อนของ นรต.ธนวัฒน์ นายณัฐวุฒิก็เดินปรี่เข้าหาร่าง นรต.ธนวัฒน์ ก่อนจะใช้มีดพับที่พกติดตัวประจำแทง นรต.ธนวัฒน์ จนล้มลงกับพื้น ซึ่งขณะนั้นคิดว่าผู้ตายคงแค่บาดเจ็บ ไม่น่าจะถึงแก่ความตาย

ผู้ต้องหารับโทษในคดีอาญา ฐานร่วมกันฆ่า...


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์อีกคดีหนึ่งให้แก่บรรดาสิงห์ขี้เมาได้อย่างดี มิตรภาพในวงเหล้าบางครั้งต้องแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

ครอบครัว ชูชีวา สูญเสียบุตรชายอันเป็นที่รัก ขณะที่มือมีดอย่างนายณัฐวุฒิและพวกต้องรับโทษในคดีอาญา ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังสิ้นสุดกระบวนการทางยุติธรรมคงสูญเสียอิสรภาพ ต้องระเห็จเข้าไปรับโทษในคุกหลายปี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์