รวบโจ๋วัยแค่14 ทุบดับหนุ่มใหญ่

กรณีนายสุภี เกสารัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี หนุ่มสติไม่สมประกอบ ถูกคนร้ายใช้ขวดเหล้าทุบหัว ทำร้ายร่างกายจนคอและซี่โครงหัก นอนเสียชีวิตบริเวณประตูด้านทิศเหนือในวัดสุวรรณเกษร หมู่ 1 ต.บ้านเลี่อม เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น

ต่อมาเวลา 09.00 น. วานนี้ (10 ธ.ค.) พ.ต.ต.กิตติพงษ์ จิตรคาม สว.สส.สภ.อ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังเชิญตัว ด.ช.อ๊อฟ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี อยู่ ต.บ้านเลื่อม ผู้ ต้องสงสัยมาสอบปากคำ พร้อมของกลางกางเกงขาสั้นสีเทาเปื้อนเลือด ในเบื้องต้น ด.ช.อ๊อฟให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายสุภีจริง

เนื่องจากมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง พร้อมกับเปิดเผยถึงสภาพชีวิตว่า ตอนนี้ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้ทำงาน พ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่ไปทำงานกรีดยางที่ภาคใต้ อาศัยอยู่กับยายในหมู่บ้าน

ฆาตกรวัยโจ๋กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่านายสุภี เนื่องจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ผู้ตายเป็นคนที่มีสติไม่สมประกอบ มักขอเงินชาวบ้านไปซื้อเหล้าขาวกินและสูดดมทินเนอร์เป็นประจำ ตนชอบแกล้งผู้ตายเป็นประจำโดยใช้ไม้แหย่เล่น จนผู้ตายรำคาญดุด่า บางครั้งดุเดือดถึงขั้นใช้มีดไล่ฟัน เมื่อพบหน้ากันที่ไหนต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันทุกครั้ง ก่อนเกิดเหตุได้ไปดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อน ขณะเดินกลับบ้านผ่านประตูวัด พบนายสุภียืนสูดดมทินเนอร์ จึงไล่ผู้ตายเข้าไปในวัด แล้วใช้กำปั้นชกและเตะต่อยซ้ำจนล้ม จากนั้นได้ใช้ขวดเหล้าขาวและแจกันเซรามิกที่วางอยู่ข้างรั้ววัดทุบศีรษะจนแตกสลบแน่นิ่งไป

หลังลงมือได้ชวนเพื่อนตั้งวงดื่มเหล้ากินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเวลาผ่านไปราว 1 ชั่วโมง นั่งคิดได้ว่า ที่ผ่านมานายสุภีสร้างความคับแค้นใจให้หลายเรื่องเลยต้องการฆ่าให้ตาย จึงเดินย้อนกลับไปที่วัด พบนายสุภียังนอนสลบและหายใจอยู่ จึงใช้เท้ากระทืบซ้ำที่หน้าอกและลำคอหลายครั้ง จนนายสุภีสิ้นใจคาเท้า จากนั้นได้หลบหนีไปนอนที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน

กระทั่งเช้ารู้สึกหิวข้าวจึงกลับเข้าบ้านหาข้าวกิน และถูกตำรวจตามจับกุม หลังคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน ญาติผู้ตายมายืนมุงดูกันจำนวนมาก และพยายามจะฮือรุมประชาทัณฑ์ กำลังตำรวจต้องคอยกันอย่างโกลาหลจนการทำแผนแล้วเสร็จ