เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ม.ค. นาย วิธาน สุขเกษม รักษาการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนาย ดำรง จิตรธรรม นักฑัณทวิทยาชำนาญการ หน.ฝ่ายการศึกษา นาย พิษณุ อรรถปักษ์ เจ้าพนักงานราชทัณท์ชำนาญการ หน.งานรักษาการ พร้อมด้วยพัศดีเรือนจำ
ได้ทำการจับกุมตัวนาย มานนท์ แสนพันธ์ อายุ 24 ปีพร้อมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่นไฟฉาย 15 เครื่อง ชุดชาร์ทแบตเตอรี่ 15 ชุด และหูฟัง 15 ชุด โดยสามารถจับกุมได้ในป่ากล้วยติดกับกำแพงด้านทิศเหนือของเรือนจำ ใกล้กับบ้านของผู้บัญชาการเรือนจำ ขณะนายมานนท์กำลังนั่งซุ่มดูลาดเลาอยู่ โดยมีเพื่อนอีกสองคนหลบหนีไปได้
นายมานนท์ให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาวันที่ 24 ม.ค. นายบอยและนายเล็ก ได้ชวนให้มาเป็นเพื่อนที่เรือนจำบอกว่าจะเอาห่อโทรศัพท์มาให้เพื่อนที่ต้องโทษอยู่
โดยให้ค่าจ้างถือ 6 พันบาท โดยนายเอกเป็นคนขี่ นายบอยนั่งหน้านายเอก ส่วนตนซ้อนท้ายถือของมา จนเข้ามาถึงเรือนจำทั้งสองคนให้ตนนำของไปรอที่ข้างเรือน แล้วบอกว่าจะไปเติมรถรถจยย.เดี่ยวนายบอยจะกลับมาโยนเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่มาทั้งหมดจึงหลบหนีไป และนายมานนท์ถูกจับกุมได้ดังกล่าว
นายวิธาน เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันเวลา 06.00 น.ชุดจู่โจมนำโดยนายดำรงค์ และนายพิษณุ ได้เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนผู้ต้องขัง พบโทรศัพท์มือถือจำนวน 14 เครื่อง กัญชา 33 ห่อ และเหล็กแหลมจำนวนหนึ่ง
จึงทำการตรวจยึดเอาไว้ ซึ่งจุดที่นายมานนท์มาโยนต์นั้นหากโยนข้ามเข้ามาในเรือนจำจะอยู่ระหว่างแดน 3 และ 4 ตรงบริเวณอ่างอาบน้ำ และห้องน้ำซึ่งเป็นจุดอับ และเคยมีการลักลอบโยนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถูกจนท.พบเสียก่อน
ซึ่งราคาของโทรศัพท์จะมีราคาสูงหากมีการตรวจค้นและพบบ่อย โดยโทรศัพท์ที่ยึดได้ข้างนอกราคาไม่ถึงพันบาท แต่เมื่อขายพายในราคาสูงตั้งแต่ 3 - 4.5 หมื่นบาท ทั้งนี้การลักลอบนำโทรศัพท์เข้าไปกำลังเป็นที่ต้องการของบรรดาเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับกุม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
